CPF กอดคอ CPP พากันขึ้น! รับอานิสงส์ราคาหมูจีน-เวียดนามพุ่ง

CPF กอดคอ CPP พากันขึ้น! รับอานิสงส์ราคาหมูจีน-เวียดนามพุ่ง


สืบเนื่องจากราคาหุ้น C.P. Pokphand Co., Ltd. (CPP) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ถือหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมในสัดส่วนกว่า 50% ของหุ้นทั้งหมดที่ออกจำหน่ายแล้ว และเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (HKEX) มีความเคลื่อนไหวในทิศทางน่าสนใจ ด้วยราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นกว่า 30% ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา จนขึ้นมาแตะที่ระดับกว่า 1 ดอลลาร์ฮ่องกง ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อ CPP อย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาสุกรในประเทศจีนและเวียดนาม ที่ปรับตัวสูงขึ้นตลอดปี 2563 เนื่องจากทั้งสองประเทศเกิดภาวะขาดแคลนสุกร จากโรคระบาด ASF ขณะที่ธุรกิจสุกรของ CPP สามารถป้องกัน ASF ได้อย่างเบ็ดเสร็จ ส่งผลให้อัตรากำไรเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ทั้งนี้จากความเชื่อมั่นที่นักลงทุนมีต่อ CPP นั้นคาดว่าจะส่งผลบวกต่อบริษัทแม่อย่าง CPF อีกด้วย โดยขณะนี้ราคาหุ้น CPF มีการปรับตัวขึ้น 3 วันติด โดยวันนี้ (18 ก.พ.) ล่าสุด  ณ เวลา 10.30 น. ราคาหุ้น CPF อยู่ที่ระดับ 28.25 บาท บวก 0.25 บาท หรือ 0.89% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 605.13 ล้านบาท

อย่างไรก็ดีท่ามกลางสถานการณ์โรคระบาดในคนอย่างโควิด-19 และโรคระบาดสัตว์อย่าง ASF  ประสิทธิภาพของมาตรฐานการป้องกันโรคของ CPF ประเทศไทยนั้น ได้รับการยอมรับอย่างมากจากทุกภาคส่วน กลายเป็นต้นแบบสำคัญให้ธุรกิจในทุกๆประเทศของ CPF นำไปดำเนินการต่อ และเกิดเป็นอานิสงส์ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในภาพรวมของทุกประเทศมีแนวโน้มที่ดี

นอกเหนือจากมาตรฐานการป้องกันโรคแล้ว CPF ยังเป็นผู้ผลิตอาหารของไทยที่ได้รับการยอมรับในเวทีโลก ทั้งกระบวนการผลิตและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ตระหนักดีถึงการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน มีกระบวนการผลิตที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากลตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ และตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดห่วงโซ่ทั้งธุรกิจสัตว์บกและธุรกิจสัตว์น้ำ

ขณะที่นักวิเคราะห์หลายสำนักยังคงแนะนำ “ซื้อ” หุ้น CPF  อาทิ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ให้ราคาเป้าหมาย 44.50 บาทต่อหุ้น, บล.เอเซีย พลัส ให้ราคาเป้าหมาย 42 บาทต่อหุ้น, บล.คิงฟอร์ด ให้ราคาเป้าหมาย 40.50 บาทต่อหุ้น เป็นต้น โดยมีมุมมองบวกต่อราคาเนื้อสัตว์ในต่างประเทศ และในประเทศไทย ยังคงอยู่ในระดับสูง เนื่องจากความต้องการขายขาดแคลนจากโรคระบาด ASF ที่เกิดขึ้น

อนึ่ง CPP ดำเนินธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร ทั้งอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ อุตสาหกรรมสุกร อุตสาหกรรมไก่เนื้อ และอุตสาหกรรมกุ้ง โดยเป็นผู้นำธุรกิจอันดับ 1 ในประเทศเวียดนาม รวมถึง เป็นผู้นำธุรกิจติดอันดับ Top Five ในประเทศจีน ซึ่งล้วนมีผลประกอบการที่ดีมาก

Back to top button