EU เบรกภาษีตอบโต้ทรัมป์ รอเจรจา! ฉุดเงิน “ยูโร-เปโซ” อ่อนค่า นักลงทุนแห่ถือดอลลาร์

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2568 นางเออร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission : EC) แถลงที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียมว่า สหภาพยุโรป (EU) จะระงับการจัดเก็บภาษีตอบโต้สินค้าสหรัฐฯ ที่เดิมกำหนดมีผลวันจันทร์นี้ เพื่อเปิดทางสู่การเจรจากับรัฐบาลทรัมป์ภายในสิ้นเดือนกรกฎาคม

“นี่คือช่วงเวลาสำคัญของการเจรจา” ประธาน EC กล่าว พร้อมระบุว่าการเลื่อนมาตรการไปจนถึง 1 สิงหาคม 2568 แสดงให้เห็นว่า “มีเวลาถึงต้นเดือนหน้าในการหาทางออก”

ขณะที่นางคลอเดีย ไชน์บอม ประธานาธิบดีเม็กซิโก ออกมาประณามนโยบายภาษีของทรัมป์ว่าเป็นการกระทำที่ “ไม่เป็นธรรม” และทำลายหลักการค้าโลกที่สมาชิก WTO ยึดถือ พร้อมเรียกร้องให้ใช้สติและจับมือเจรจา แทนการตอบโต้ด้วยภาษีเพิ่มความรุนแรง และยังเน้นถึงความจำเป็นในการปกป้องอธิปไตยของเม็กซิโก

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีเม็กซิโก ย้ำว่า แม้จะยังไม่มีการประกาศมาตรการตอบโต้ทันที แต่รัฐบาลเม็กซิโกมีแผนรองรับ หากการเจรจาไม่คืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม

ด้านนางจอร์เจีย เมโลนี นายกรัฐมนตรีอิตาลี ออกแถลงการณ์เตือนว่า สงครามการค้าจะทำให้ทุกฝ่ายอ่อนแอลงต่อความท้าทายระดับโลก ยืนยันอิตาลีพร้อมผลักดันข้อตกลงที่เป็นธรรม ขณะที่นายอันโตนิโอ ตายานี รัฐมนตรีต่างประเทศอิตาลี มีกำหนดเยือนวอชิงตันเพื่อหารือกับรัฐบาลสหรัฐฯ และสภาคองเกรส

โดยการตัดสินใจนี้ มีขึ้นหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งจดหมายถึง EU ประกาศเก็บภาษี 30% สำหรับสินค้าจาก EU และเม็กซิโก เริ่มมีผล 1 สิงหาคม  โดย EU ซึ่งเป็นเขตการค้าใหญ่ที่สุดของโลกและคู่ค้ารายใหญ่สุดของสหรัฐฯ เดิมวางแผนใช้มาตรการตอบโต้ในเวลาเที่ยงคืนวันจันทร์ตามเวลาบรัสเซลส์

สินค้าส่งออกหลักจากยุโรปไปสหรัฐฯ ได้แก่ ยา รถยนต์ อากาศยาน เคมีภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ และไวน์-สุรา โดยผู้นำ EU ย้ำว่า ต้องการทางออกผ่านการเจรจา แต่หากไม่สำเร็จ EU จะเตรียมมาตรการตอบโต้ให้พร้อมเต็มที่

ข้อมูลจาก Eurostat ระบุว่า มูลค่าการค้าสินค้าและบริการระหว่าง EU–สหรัฐฯ ในปี 2567 อยู่ที่ 1.7 ล้านล้านยูโร หรือ ราว 2 ล้านล้านดอลลาร์ หรือเฉลี่ยวันละ 4.6 พันล้านยูโร

ทั้งนี้ รัฐมนตรีการค้าของชาติสมาชิก EU มีกำหนดประชุมวันจันทร์นี้ (14 ก.ค.68) เพื่อหารือท่าทีร่วมกัน รวมถึงความสัมพันธ์กับจีน ซึ่งอาจมีบทบาทมากขึ้นหากความขัดแย้งกับสหรัฐฯ ยืดเยื้อ

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานความผันผวนของตลาดเงินทันที ว่า เงินยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ นับตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน หลังจากที่ข่าวภาษีแพร่กระจาย นักลงทุนเทขายและหันไปถือดอลลาร์ ส่วนสกุลเงินเปโซเม็กซิโก เคลื่อนไหวอ่อนค่าลงเล็กน้อยตามแรงกดดันจากข่าวภาษี ทำให้นักลงทุนหันเข้าถือดอลลาร์ ทองคำ และพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะสั้น เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง

นายเทย์เลอร์ นูเจนต์ (Taylor Nugent) นักวิเคราะห์จาก National Australia Bank มองว่า ตลาดยังคงประเมินความไม่แน่นอน เพราะผลจากภาษีอาจไม่ชัดเจน หากข้อตกลงสุดท้าย (eventual deal) ที่อาจบรรลุได้ เกิดขึ้นได้ก่อนวันที่ 1 สิงหาคม 2568