TU:พื้นฐานดีโตทั้งภายใน-ภายนอกแนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 22.3 บ.

TU เป็นหุ้นมีปัจจัยพื้นฐานดีด้วยการเติบโตจากทั้งภายในเอง และภายนอกด้วยการซื้อหรือควบรวมกิจการ (M&A) คงคำแนะนำ ซื้อ คาดว่าอัตราการเติบโตกำไรหลักปีนี้สูงเป็น 26% จากการประเมินมูลค่าหุ้นพบว่ายังถูก ด้วย PEG ปี 59 ที่เพียง 0.6 เท่า ราคาพื้นฐานกำหนดไว้เป็น 22.30 บาท ซึ่งประเมินด้วย P/E ปี 59 ที่ระดับ 17 เท่า


บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (11 พ.ค.) ว่า บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)หรือ TU กำไรหลักไตรมาส 1/59 เป็น 967 ล้านบาทคิดเป็นเกือบเท่าตัวเทียบ เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนผลพวงจากการปรับปรุงการดำเนินงานในทุกส่วนธุรกิจ มีการนำงบการเงินของ Rugen Fisch มารวม อัตรากำไรทำได้สูงขึ้น ดอกเบี้ยจ่ายลดต่ำลง

อีกทั้งเงินบาทที่อ่อนค่าส่งผลดีต่อรายได้ให้เพิ่มขึ้น แต่กำไรสุทธิไตรมาส 1/59 เป็น 1.2 พันล้านบาท ลดลง 19% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนเพราะมีรายการกำไรอัตราแลกเปลี่ยนน้อยลงเป็น 264 ล้านบาท เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่สูงเป็น 1.1 พันล้านบาท

เป็นหุ้นมีปัจจัยพื้นฐานดีด้วยการเติบโตจากทั้งภายในเอง และภายนอกด้วยการซื้อหรือควบรวมกิจการ (M&A) ราคาทูน่ายังอยู่ในระดับสูงเป็น 1,610 เหรียญสหรัฐต่อตัน ในเดือน เม.ย.59 แม้ได้มีการแก้ปัญหาการออกใบอนุญาตจับปลาที่ค่อนข้างล่าช้าที่สหรัฐไปแล้วก็ตาม

อีกทั้งการห้ามใช้อุปกรณ์จับปลา (FAD) ระหว่าง ก.ค.-ต.ค.ก็จะเป็นแรงหนุนราคาให้สูงต่อไป ส่งผลดีต่ออัตรากำไรสินค้าประเภททูน่าที่เป็น OEM ส่วนทูน่าที่มีแบรนด์ บริษัทก็เน้นกลยุทธ์การทำกำไร

คงคำแนะนำ ซื้อ คาดว่าอัตราการเติบโตกำไรหลักปีนี้สูงเป็น 26% จากการประเมินมูลค่าหุ้นพบว่ายังถูก ด้วย PEG ปี 59 ที่เพียง 0.6 เท่า ราคาพื้นฐานกำหนดไว้เป็น 22.30 บาท ซึ่งประเมินด้วย P/E ปี 59 ที่ระดับ 17 เท่า คาดว่าการที่ TU มุ่งเน้นให้พอร์ตฟอลิโอสินค้ามีอัตรากำไรที่สูงขึ้น ในที่สุดจะผลักดันให้ P/E ในอนาคตถูกลงได้

Back to top button