ความตกลงปารีส

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแนวทางปฏิบัติสำหรับการใช้คาร์บอนเครดิตเพื่อวัตถุประสงค์ระหว่างประเทศ ภายใต้กลไกข้อ 6 ของความตกลงปารีส (Article 6 of the Paris Agreement) โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการลงทุนและการพัฒนาโครงการลดก๊าซเรือนกระจกคุณภาพสูง รวมถึงสนับสนุนการขับเคลื่อนตามแผนปฏิบัติการด้านการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ พ.ศ. 2564 - 2573 อย่างยั่งยืน ดร.เฉลิมชัย กล่าวว่าแนวทางดังกล่าวมุ่งกำหนดประเภทโครงการที่สามารถยกระดับศักยภาพของคาร์บอนเครดิต และต้องปราศจากการฟอกเขียว (greenwashing) ตามมาตรฐานสากล โดยถือเป็นมาตรการเพิ่มเติมจากการดำเนินงานภายในประเทศที่มีอยู่แล้ว และต่อยอดไปสู่เป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกระยะยาวของประเทศ โดยรัฐบาลได้กำหนดกรอบการถ่ายโอนคาร์บอนเครดิตภายใต้กลไกข้อ 6 ภายในปี 2573 ไม่เกิน 16.7 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบให้กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานหลักในการอนุญาตและกำกับดูแลการดำเนินงาน รวมถึงการถ่ายโอนคาร์บอนเครดิตเพื่อวัตถุประสงค์ระหว่างประเทศ โดยยึดหลักการดำเนินงานที่โปร่งใส น่าเชื่อถือ และมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ประเทศไทยได้รับประโยชน์สูงสุดทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม พร้อมกันนี้ ยังได้เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานอย่างเหมาะสม เพื่อสร้างความสมดุลในการพัฒนาและการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างแท้จริง โดยภายใต้กลไกข้อ 6 ของความตกลงปารีส โดยมีสาระสำคัญดังนี้ 1.) ส่งเสริมโครงการคุณภาพสูง มุ่งพัฒนาโครงการลดก๊าซเรือนกระจกที่มีคุณภาพ ยกระดับศักยภาพคาร์บอนเครดิต และต้องปราศจากการฟอกเขียว (greenwashing) ตามมาตรฐานสากล 2.) ต่อยอดเป้าหมายลดก๊าซของประเทศ เป็นมาตรการเพิ่มเติมจากแผนปฏิบัติการด้านการลดก๊าซเรือนกระจก พ.ศ. 2564-2573 เพื่อบรรลุเป้าหมายระยะยาวของประเทศ 3.) กรอบการถ่ายโอนคาร์บอนเครดิต กำหนดให้การถ่ายโอนภายใต้กลไกข้อ 6 ภายในปี 2573 มีปริมาณไม่เกิน 16.7 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า 4.) หน่วยงานรับผิดชอบหลัก มอบหมายให้กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ทำหน้าที่อนุญาตและกำกับดูแลการถ่ายโอนคาร์บอนเครดิต 5.) หลักการสำคัญของการดำเนินงาน ต้องอยู่บนพื้นฐานของความโปร่งใส น่าเชื่อถือ และมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ประเทศได้รับประโยชน์สูงสุดทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม 6.) การมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีบทบาทในการดำเนินงาน เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจและการแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศ