ตลาดหุ้นปิด

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งกรอบแคบ รับแรงขายทำกำไรต่อเนื่องจากวานนี้ 18 ก.ย. ที่ดัชนี SET ลงมาจากจุดสูงสุดรอบนี้ 1,312 จุด ลงมาที่ 1,292 จุด หลุดแนวรับ 1,304 จุด ทำให้ภาพรวมดูไม่ค่อยดี โดยเฉพาะเมื่อดัชนีลงมายืนต่ำกว่า 1,300 จุดมองว่ามีความเสี่ยงพักฐานสูง และวานนี้ต่างชาติขายออกมามากถึง 3,227 ล้านบาท ทำให้ภาพการลงทุนเช้านี้เป็นไปอย่างระมัดระวัง สำหรับหุ้นที่ปรับขึ้นมาวันนี้กระจายหลายกลุ่ม โดยเฉพาะหุ้น Underperform ในกลุ่มธนาคาร การแพทย์ รวมถึง KTC ขณะที่หุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ สนามบิน โรงแรม กลุ่มบริโภค ปรับตัวลง นายกิจพณ กล่าวว่า หากดูดัชนี SET ในช่วง 23 มิ.ย.-18 ก.ย.ปรับขึ้นมา 22% ขณะที่ SET 100 ปรับขึ้นมาถึง 60-114% อาทิ หุ้น M พุ่งขึ้นไปถึง 114% รวมทั้ง GLOBAL, SAWAD, MTC, CK, JMT, JMART, DELTA และ KCE เป็นต้น อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นรับรู้ข่าวดีเรื่องธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดดอกเบี้ย และการที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่แล้ว หลังจากนี้คงยังไม่มีข่าวดีเข้ามาในเร็วๆ นี้ และยังจะต้องเจอปัจจัยท้าทาย คือ ผลประกอบการของ บจ.ไตรมาส 3/68 คาดว่าจะเป็นช่วงอ่อนตัวสุดของปี อีกทั้งตัวเลขส่งออกเดือนส.ค.คาดว่าจะเติบโตแค่ 6% เทียบกับเดือน ก.ค.ที่ขยายตัวถึง 11% และครึ่งปีแรกโต 15% รวมถึงครึ่งหลังของปีก่อนฐานตัวเลขส่งออกสูง แต่ปีนี้ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีสหรัฐที่ทำให้เร่งส่งออกในครึ่งปีแรกและคาดว่าจะชะลอลงในครึ่งปีหลัง ขณะที่ แนวโน้มช่วงบ่ายคาดว่าตลาดยังเคลื่อนไหวกรอบแคบ บวก/ลบ 5 จุด ต้องระวังหากดัชนีหลุด 1,285 จุด อาจทำให้เกิดสัญญาณทางเทคนิคพักตัวเป็นทางการ แรงขายน่าจะออกมามาก เขิงกลยุทธ์แนะให้แบ่งขายทำกำไรตัวที่มีกำไรพร้อมให้แนวรับที่ 1,285-1,290 จุด แนวต้านที่ 1,304 จุด ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,379.05 ล้านบาท ปิดที่ 33.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง CRC มูลค่าการซื้อขาย 941.33 ล้านบาท ปิดที่ 22.10 บาท ลดลง 2.20 บาท EA มูลค่าการซื้อขาย 715.16 ล้านบาท ปิดที่ 3.58 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง KTC มูลค่าการซื้อขาย 706.15 ล้านบาท ปิดที่ 30.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท DELTA มูลค่าการซื้อขาย 679.86 ล้านบาท ปิดที่ 162.00 บาท ลดลง 0.50 บาท