อมร ชมเชย

บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX จับมือกับสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) เดินหน้าขับเคลื่อนประเทศไทยสู่อนาคตดิจิทัลที่มั่นคงและยั่งยืน ผ่านการลงนามความร่วมมือด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ใน 4 ด้านหลัก เพื่อพัฒนามาตรฐาน ทักษะบุคลากร และการบริหารจัดการความเสี่ยงทางเทคโนโลยีอย่างรอบด้าน นายเดนนิส ทรานิทสเชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี (Chief Technology Officer) SCBX เปิดเผยว่า มีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับ สกมช. เพื่อสร้างมาตรฐานและความเข้าใจด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ร่วมกัน เพราะในยุคที่เทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ (AI) เปลี่ยนวิธีการทำงานอย่างสิ้นเชิง ความปลอดภัยไซเบอร์ไม่ใช่เพียงเรื่องของเทคโนโลยีสารสนเทศอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องของการบริหารองค์กรอย่างยั่งยืน พร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญของ “การเรียนรู้ร่วมกัน” และ “การสร้างสมดุลระหว่างนวัตกรรมกับการควบคุมความเสี่ยง” เพื่อให้ทุกภาคส่วนเติบโตอย่างมั่นคง พลอากาศตรี อมร ชมเชย เลขาธิการคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) กล่าวว่า สกมช. ได้วางรากฐานด้านกฎหมายและนโยบายเพื่อรองรับโลกดิจิทัล ผ่านพระราชบัญญัติสำคัญ 3 ฉบับ ได้แก่ พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พระราชบัญญัติความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ และพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) เพื่อสร้างความปลอดภัยและความเชื่อมั่นในการใช้บริการดิจิทัลอย่างปลอดภัย (Safe, Secure, Trusted) พร้อมทั้งผลักดันการสร้างระบบนิเวศด้านไซเบอร์ (Cyber Ecosystem) ที่ยั่งยืนผ่านการพัฒนามาตรฐานวิชาชีพ ร่วมกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และการส่งเสริมการเรียนรู้ตั้งแต่ระดับอาชีวศึกษา เพื่อรับมือภัยไซเบอร์ตั้งแต่ระดับพื้นฐาน ทั้งนี้ ความร่วมมือระหว่าง SCBX และ สกมช. มีเป้าหมายยกระดับความสามารถของบุคลากรภาครัฐและเอกชน รวมถึงพัฒนากลไกป้องกันภัยไซเบอร์ระดับประเทศใน 4 ด้านหลัก ได้แก่ 1.การพัฒนามาตรฐานและกรอบการกำกับ (Cybersecurity Framework & Standards): ส่งเสริมการนำมาตรฐานความปลอดภัยไซเบอร์ไปใช้ในภาครัฐและเอกชน ครอบคลุม Cloud Security, Web Application Security และ Quantum-Safe Readiness 2.การพัฒนาทักษะและบุคลากรด้านไซเบอร์ (Cyber Workforce Development): สร้างหลักสูตรอบรมและโครงการฝึกปฏิบัติจริงร่วมกับสกมช. และบริษัท Mandiant เพื่อเพิ่มขีดความสามารถบุคลากรไทย 3.การวิจัยและนวัตกรรมด้าน AI Security: สนับสนุนการศึกษาระบบความปลอดภัยของ AI และ AI Agent ให้ทำงานได้อย่างปลอดภัย โปร่งใส และสอดคล้องกับจริยธรรมองค์กร 4.การแลกเปลี่ยนข้อมูลและข่าวกรองภัยคุกคามไซเบอร์ (Cyber Threat Intelligence Exchange): พัฒนากลไกแลกเปลี่ยนข้อมูลภัยคุกคามอย่างต่อเนื่องเพื่อยกระดับความพร้อมของประเทศ ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการสร้าง “เกราะดิจิทัล” ให้กับประเทศไทย เพื่อรองรับภัยไซเบอร์ในอนาคต และเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนในยุคดิจิทัล