“กรุงศรี” มอง SET ไซด์เวย์อัพ แรงหนุนดอกเบี้ยขาลง-นโยบายรัฐหนุนตลาด

บล.กรุงศรี ประเมินดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์นี้ (6-10 ต.ค.) เคลื่อนไหวในกรอบ 1,270–1,318 จุด ได้แรงหนุนจากความคาดหวังเฟดลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง และรัฐบาลเดินหน้านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ หนุนหุ้นบริโภค–สินเชื่อฟื้นตัว แนะนำสะสมหุ้น CPAXT, KTC, MTC


บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยมุมมองตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ (6-7–11 ตุลาคม 2568) ว่าดัชนี SET มีแนวโน้มเคลื่อนไหว “Sideways/Up” ในกรอบแนวต้าน 1,309/1,318 จุด และแนวรับ 1,282/1,270 จุด โดยแรงขับเคลื่อนหลักมาจากความเชื่อมั่นต่อนโยบายการเงินผ่อนคลายของสหรัฐฯ หลังผลสำรวจชี้ว่า กว่า 90% ของนักลงทุนยังคาดว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง รวม 0.50% ภายในปี 2568

ขณะเดียวกัน ฝั่งนโยบายการคลังไทยคาดรัฐบาลใหม่จะทยอยอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การบริโภค การท่องเที่ยว และการลงทุน รวมถึงเร่งเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายปี 2569 ผสานกับนโยบายการเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีกในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 8 ตุลาคม ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่มบริโภคและสินเชื่อ

กรุงศรีมองว่ากลุ่มหุ้นเด่นที่จะได้อานิสงส์จากภาวะดอกเบี้ยขาลง ได้แก่ กลุ่มเช่าซื้อ โรงไฟฟ้า และบริษัทที่มีภาระหนี้สูง ขณะที่กลุ่ม Domestic Deep Value เช่น ค้าปลีกและท่องเที่ยว คาดว่าจะได้แรงหนุนจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและการฟื้นตัวของการเดินทาง โดยเฉพาะหลังเทศกาล Golden Week ของจีน ซึ่งคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะออกมาดี

สำหรับหุ้นเด่นประจำสัปดาห์นี้ กรุงศรีแนะนำ CPAXT (เป้าหมาย 24.30 บาท) ได้อานิสงส์จากมาตรการรัฐและดอกเบี้ยขาลง, KTC (เป้าหมาย 40 บาท) คาดได้ประโยชน์จากการบริโภคฟื้น และ MTC (เป้าหมาย 58 บาท) รับผลบวกจากต้นทุนทางการเงินลดลง

นอกจากนี้ยังแนะนำพอร์ต “Best Picks เดือนตุลาคม 2568” ได้แก่ BH, MTC, GULF, IVL, BJC, PTTGC, CENTEL และพอร์ต “หุ้นเด่นไตรมาส 4/2568” เช่น AOT, BJC, CPALL, GULF, HMPRO, IVL, MTC, PTTGC, TOP และ WHA รวมถึงหุ้นขนาดกลางและเล็กที่น่าสนใจ เช่น AMATA, CENTEL และ ERW

ด้านปัจจัยติดตามสำคัญในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ความคืบหน้า US Government Shutdown, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ เดือนตุลาคม, การเลือกหัวหน้าพรรค LDP ของญี่ปุ่น, รายงานนักท่องเที่ยวจีนหลัง Golden Week, ตัวเลขเงินเฟ้อไทยเดือนกันยายน (-0.6% y-y), การประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 7 ตุลาคม และผลการประชุม กนง. วันที่ 8 ตุลาคม

ทั้งนี้ กำไรต่อหุ้น (EPS) ตลาดปี 2568 คาดอยู่ที่ 89.7 บาท เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 4 สัปดาห์ติดต่อกัน โดยกลุ่มที่ปรับขึ้นได้แก่ บริการเฉพาะตัว เกษตร และขนส่ง ส่วนกลุ่มที่อ่อนตัว ได้แก่ ปิโตรเคมี ก่อสร้าง และบรรจุภัณฑ์

Back to top button