
โบรกมองบวก “กลุ่มค้าปลีก” ปี 69 รับเศรษฐกิจฟื้น ชู DOHOME–HMPRO ท็อปพิก!
บล.ทิสโก้มองกลุ่มค้าปลีก รับเศรษฐกิจฟื้นตัว การท่องเที่ยวฟื้น และความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ดีขึ้น พร้อมคงคำแนะนำ “ซื้อ” CPALL, DOHOME, HMPRO เป็นหุ้นเด่นปี 69
บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยในบทวิเคราะห์สถานการณ์การค้าปลีกประจำเดือน ระบุว่า ยอดขายค้าปลีกในเดือนพฤศจิกายนปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยจากเดือนตุลาคม โดยเริ่มเห็นผลเชิงบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลตั้งแต่ช่วงปลายเดือนตุลาคม ซึ่งส่งผลดีเป็นพิเศษต่อธุรกิจค้าส่งของ บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT ขณะที่ฝนตกหนักยังคงสร้างแรงกดดันต่อยอดขายของทุกบริษัท
ทั้งนี้ คาดว่าผลกระทบจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยจะลดลงในเดือนธันวาคม และโมเมนตัมเชิงบวกจะดำเนินต่อเนื่องถึงไตรมาส 4/2568 จากปัจจัยฤดูกาลที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งบริเวณชายแดนกัมพูชายังคงเป็นความเสี่ยงต่อยอดขายในเดือนธันวาคม โดยประเมินว่า บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC จะได้รับผลกระทบมากที่สุด เนื่องจากราว 1.9% ของสาขาตั้งอยู่ใกล้พื้นที่ความขัดแย้ง ขณะที่ผู้ประกอบการค้าปลีกและร้านวัสดุก่อสร้างอื่น ๆ มีการปิดสาขาชั่วคราวประมาณ 1% ของจำนวนสาขาทั้งหมด
ด้านผลประกอบการของกลุ่มค้าปลีกในเดือนพฤศจิกายน ยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ยังอยู่ในระดับอ่อนแอ โดยคาดว่าจะหดตัว 0.9% ดีขึ้นเล็กน้อยจากการลดลง 1.0% ในเดือนตุลาคม โดยธุรกิจค้าส่งของ CPAXT น่าจะฟื้นตัวเด่นสุดจากมาตรการภาครัฐ
ขณะที่ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL อาจเผชิญผลการดำเนินงานอ่อนแอลงจากฐานเปรียบเทียบปีก่อนที่สูง ทั้งนี้ เดือนธันวาคมยังถูกกดดันต่อเนื่อง โดย BJC ได้ปิดสาขาไฮเปอร์มาร์เก็ตชั่วคราว 3 แห่ง จากทั้งหมด 153 แห่ง
สำหรับกลุ่มวัสดุก่อสร้างและตกแต่งบ้าน โมเมนตัม SSSG ในเดือนพฤศจิกายนมีความหลากหลาย โดยผู้ประกอบการส่วนใหญ่ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบเดือน แต่ บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME รายงานผลที่อ่อนแอลง ขณะที่ผลกระทบจากน้ำท่วมภาคใต้ค่อนข้างจำกัด เนื่องจากสถานการณ์หยุดชะงักเพียงไม่กี่วัน และศูนย์ปฏิบัติการหลักยังคงเปิดดำเนินการได้ ทั้งนี้ ความเสี่ยงในเดือนธันวาคมขยับไปสู่ผลกระทบจากความขัดแย้งชายแดนไทย–กัมพูชา แม้ประเมินว่าผลกระทบโดยตรงต่อรายได้จะต่ำกว่า 1% แต่ผู้ค้าปลีกที่มีสาขาใกล้ชายแดนยังคงเผชิญความท้าทายด้านการดำเนินงานในทันที
ทางฝ่ายวิจัยยังคงให้น้ำหนักเชิงบวกต่อกลุ่มค้าปลีกมากกว่ากลุ่มวัสดุก่อสร้างและตกแต่งบ้าน โดยคาดว่าทั้งสองกลุ่มจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงครึ่งแรกปี 2569 หนุนโดยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว และความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ดีขึ้น
โดยยังคงให้ความสำคัญกับกลุ่มการค้าปลีกมากกว่ากลุ่มวัสดุก่อสร้างและตกแต่งบ้าน โดยคาดว่าทั้งสองภาคจะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างค่อยเป็นค่อยไปในครึ่งแรกของปี 69 ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น
โดยคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ CPALL เนื่องจากยอดขายสาขาเดิมเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และอัตรากำไรขั้นต้นขยายตัว แม้จะมีความท้าทายด้านอุปสงค์ในปัจจุบัน ผู้ประกอบการวัสดุก่อสร้างและตกแต่งบ้าน ยังคงเปิดร้านใหม่เพื่อรักษาตำแหน่งทางการตลาดในระยะยาว ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่อาจกดดันผลกำไรในระยะสั้้น ท่ามกลางสภาวะเหล่านี้
ทั้งนี้ทางฝ่ายวิจัยยังคงชื่นชอบ DOHOME และ HMPRO เป็นหุ้นแนะนำอันดับต้นๆ ของทางฝ่ายวิจัย และคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ CPALL โดยมูลค่าที่เหมาะสมอยู่ที่ 73.00 บาท , DOHOME โดยมูลค่าที่เหมาะสมอยู่ที่ 10 บาท และ HMPRO โดยมูลค่าที่เหมาะสมอยู่ที่ 11.00 บาท

