TU ร่วมทุน SFLEX รุกธุรกิจบรรจุภัณฑ์ “พลาสติกชนิดอ่อน” รองรับโปรดักส์ใหม่

TU ร่วมทุน SFLEX เดินหน้าธุรกิจผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน และดำเนินธุรกิจอื่นใดที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบรรจุภัณฑ์ใหม่ในอนาคต เพื่อรองรับโปรดักส์ใหม่ อาทิ อาหารสัตว์เลี้ยงและอื่นๆ


นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU เปิดเผยว่า เกี่ยวกับมติคณะกรรมการบริหาร (Executive Committee) ซึ่งได้รับมอบอำนาจจากคณะกรรมการบริษัท ในการประชุมครั้งที่ 7/2564 ประชุมขึ้นเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2564 ซึ่งมีมติเห็นชอบอนุมัติการลงทุนของบริษัท ไทยยูเนี่ยน กราฟฟิกส์ จำกัด หรือ TUG ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นร้อยละ 98 และดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการให้บริการ และผลิตบรรจุภัณฑ์และสิ่งพิมพ์ ร่วมกับบริษัท สตาร์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือSFLEX ซึ่งเป็นผู้นำในการดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน (Flexible Packaging) ในการจัดตั้งบริษัทขึ้นใหม่เพื่อร่วมลงทุน มีรายละเอียดดังนี้

โดยวัตถุประสงค์ในการร่วมลงทุนครั้งนี้ เพื่อร่วมลงทุนในกิจการการผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน (Flexible Packaging) และดำเนินธุรกิจอื่นใดที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบรรจุภัณฑ์ใหม่ในอนาคต ทางบริษัทมีทุนจดทะเบียนบริษัท 250,000,000 บาท โดยแบ่งออกเป็น หุ้นสามัญ จำนวน2,450,000 หุ้น และหุ้นบุริมสิทธิ จำนวน 50,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท มีโครงสร้างผู้ถือหุ้น SFLEX จะเข้าถือหุ้นสามัญ จำนวน 1,250,000 หุ้น TUG จะเข้าถือหุ้นสามัญ จำนวน 1,200,000 หุ้น และหุ้นบุริมสิทธิ จำนวน 50,000 หุ้น

สำหรับแหล่งเงินทุน เป็นเงินทุนหมุนเวียนในบริษัท ส่วนลักษณะที่เกี่ยวโยงกัน กล่าวว่า SFLEX ไม่ใช่บุคคลเกี่ยวโยงกันของบริษัท ดังนั้นการลงทุนจัดตั้งบริษัทนี้  จึงไม่ใช่รายการเกี่ยวโยงกันตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 21/2551 ส่วนขนาดของรายการ สำหรับการลงทุนในการจัดตั้งบริษัทที่ได้จัดตั้งขึ้นใหม่นี้ มีขนาดรายการคิดเป็นร้อยละ 0.08 คำนวนตามเกณฑ์ของมูลค่ารวมสิ่งตอบแทนตามงบการเงินรวมของบริษัท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 และเมื่อรวมรายการดังกล่าวกับรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ในรอบหกเดือนที่ผ่านมา จะมีขนาดรายการคิดเป็นร้อยละ 3.22

ดังนั้น การได้มาซึ่งสินทรัพย์นี้ จึงไม่เข้าข่ายเป็นรายการที่จะต้องเปิดเผยสารสนเทศตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 20/2551 เรื่องหลักเกณฑ์ในการทำรายการที่มีนัยสำคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่องการเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ พ.ศ. 2547

Back to top button