หุ้นเซียนเหยียบเมฆ

เมื่อวานนี้ ราคาหุ้นสามัญและวอร์แรนต์อีก 3 รายการของของ BROOK ทำนิวไฮสวนตลาด ที่ยังหวั่นไหวกับผลกระทบของโควิด-19


เมื่อวานนี้ ราคาหุ้นสามัญและวอร์แรนต์อีก 3 รายการของของบริษัท บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BROOK ทำนิวไฮสวนตลาด ที่ยังหวั่นไหวกับผลกระทบของโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่เรียกว่า “โอไมครอน” จากแอฟริกาใต้ที่องค์การอนามัยโลกประกาศว่าเป็นอันตรายร้ายแรงเพราะยังหาวัคซีนป้องกันไม่ได้

การวิ่งขึ้นอย่างรุนแรงของราคาหุ้นและวอร์แรนต์ หลังจากการเพิ่มทุนเมื่อต้นปีนี้อย่างหนักกว่า 200% ถือเป็นปรากฏการณ์พิเศษเพราะเพิ่มทุนแล้วมีกำไรมหาศาล ทั้งกำไรสุทธิและกำไรต่อหุ้น

เมื่อต้นปีนี้  BROOK ได้ประกาศแผนการเพิ่มทุนครั้งใหญ่เพื่อนำเงินไปลงทุนในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งถือว่าเป็นตลาดเก็งกำไรที่ “เสี่ยงสูง และกำไรสูง” อันเป็นธุรกิจใหม่ที่ไม่คุ้นเคยกันมาก่อน

แม้จะไม่มั่นใจนัก แต่การเพิ่มทุนด้วยการออกวอร์แรนต์อีก 2 รายการอันเป็นวอร์แรนต์ที่ 6 และ 7 เพราะบริษัทมีฐานทุนจดทะเบียนและส่วนผู้ถือหุ้นที่ค่อนข้างต่ำ จากธุรกิจเดิมที่ทำอยู่ในฐานะที่ปรึกษาด้านการลงทุนและอสังหาริมทรัพย์ เพียงแต่ชื่อของประธานที่ผู้บริหารสูงสุดที่ชื่อนายชาญ บุลกุล ถือเป็นจุดขายสำคัญ

ที่เป็นจุดขายสำคัญเพราะชื่อเสียงด้านการเป็น “เซียนเหยียบเมฆทางการเงิน” อันยาวนานในฉายาที่รู้จักกันดีคือ “มา ชาน ลี” อันโด่งดังในอดีตนั้นเอง

แล้วไม่กี่เดือนหลังจากการเพิ่มทุนอันมากมายผ่านไป ผลงานในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลของ BROOK ก็ผลิดอกออกผลทันควัน

รายงานผลประกอบการของไตรมาสสามของ  BROOK ก็ออกมาในทางบวก แสดงให้เห็นถึงการ เล่นเกมตลาดเก็งกำไรที่ช่ำชองเกินคาด

ผลการดำเนินธุรกิจของบริษัทในไตรมาสที่ 3 ปี 2564 BROOK กำไรสุทธิ 328.04 ล้านบาท เทียบกับระยะเดียวกันปีก่อนที่มีตัวเลขกำไรสุทธิเพียง 9.32 ล้านบาทหรือเติบโตเพิ่มขึ้น 3420% โดยการปรับเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิ มาจากความสามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายลดลงและกำไรจากมูลค่าสินค้าคงเหลือเพิ่มขึ้น

ส่วนรายได้ปรับตัวเพิ่ม 491.09% อยู่ที่ 403.54 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 68.27 ล้านบาท โดยรายได้สินค้าคงเหลือ อัตราแลกเปลี่ยน และรายได้บริการเติบโตโดดเด่นที่สุดในไตรมาสที่ 3

นอกเหนือจากกำไรดังกล่าวแล้ว BROOK ยังมีหน่วยสินทรัพย์ดิจิทัลคงค้างในมืออีกที่ยังไม่ได้ขายออกไป สำหรับการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้ดำเนินการไปแล้วจนถึง ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2564 บริษัทมีราคาทุนอยู่ที่ 36.81 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และราคาตลาดอยู่ที่ 48.46 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นกำไรที่ยังไม่ได้บันทึกอยู่อีกกว่า 50% ของต้นทุนสินทรัพย์

กำไรที่เกิดจากการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลในรูปของการลงทุนใน Bitcoin, Ethereum, BNB โทเคน และอื่น ๆ ผ่านตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยน 2 แห่ง โดยแห่งแรกจดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้น NASDAQ และอีกแห่งเป็นตลาดซื้อขาย Cryptocurrencies Exchanges ที่ใหญ่ที่สุดด้วยการวัดจากมูลค่าการซื้อขาย

ขณะที่ผลงานการดำเนินงานงวด 9 เดือน มีรายได้รวม 676.20 ล้านบาท เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 132.10 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 411.88% โดยการปรับเพิ่มขึ้นของรายได้สาเหตุหลักมาจากบางโครงการของฝ่ายที่ปรึกษาด้านธุรกิจได้เสร็จสมบูรณ์ และรายได้อื่นจากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้นถึง 136 ล้านบาท

เพียงแค่นี้ก็ดำให้ราคาของหุ้นสามัญและวอร์แรนต์พุ่งกระฉูดสร้างฐานใหม่กว่า 80% ในช่วงหลังประกาศงบการเงินอันโดดเด่น แต่นั่นยังไม่พอเพราะล่าสุด ราคาหุ้นและวอร์แรนต์ของ BROOK ทะยานสู่จุดนิวไฮหลังจากที่ผู้บริหารอย่างนายวริศ บุญกุล ออกมาประกาศข่าวเรียกประชุมผู้ถือหุ้นวิสามัญเร็วกว่ากำหนดเพื่อขอมติ ในวันที่ 29 ธันวาคมนี้เกี่ยวกับแผนของผู้บริหารในการเสนอผู้ถือหุ้นพิจารณาแผนบริหาร Digital Asset Treasury Fund Program วงเงินไม่เกิน 2,000 ล้านบาท

การปรับแผนที่ต้องขออนุมัติผู้ถือหุ้นครั้งใหม่นี้ เกิดจากการทุ่มเงินเม็ดใหม่ที่มากกว่าแผนเดิมที่ถูกยกเลิกไปในการลงทุนสเตเบิ้ลคอยน์ผ่าน Zipmex มูลค่าไม่เกิน 150 ล้านบาท เนื่องจากเงื่อนเวลาในการเข้าลงทุนเปลี่ยนไป

นั่นคือการทุ่มเงินกับความเสี่ยงที่ใหญ่กว่าเดิมเกือบ 4 เท่าในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล

คณะกรรมการบริษัทฯ ให้เหตุผลในการเสนอวาระนี้ว่า  จะนำเสนอผู้ถือหุ้นพิจารณาแผนการลงทุนในอนาคต เป็นการจัดสรรการลงทุนใหม่ (Reallocation) สำหรับการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลซึ่งอยู่ในรูปสกุลเงินดิจิทัลหรือคริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลที่ได้ลงทุนไปแล้วในช่วง 29 มีนาคม 2564 ถึง 31 ตุลาคม 2564 โดยจะนำดอกผลที่ได้จากเม็ดเงินลงทุนและกำไรที่เกิดจากการปรับตัวขึ้นของเหรียญที่ได้ลงทุนด้วยเม็ดเงินเดิมมาใช้ในการ Reallocation ด้วย ซึ่งจะเรียกว่า ‘Digital Asset Treasury Fund Program’ โดย

แม้จะอ้างเหตุผลว่า วงเงินไม่เกิน 2,000 ล้านบาท เป็นการบริหารสภาพคล่องส่วนเกิน แต่ไม่ใช่ลักษณะ Trading Activity ที่เป็นการซื้อขายตลอดเวลา Reallocation ทำเพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของเหรียญเป็นหลัก แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธว่ามันหมายถึงเดิมพันที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมอย่างไม่ต้องสงสัย

คำพูดที่สะท้อนความมั่นใจอย่างมากของนายวริศในฐานะผู้บริหารเชิงนิตินัยที่ว่า “ผมคาดหวังสำหรับการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในวันที่ 29 ธันวาคมนี้ เชื่อว่าผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่จะเข้าใจถึงแผนงานและการเดินหน้าของบริษัทฯที่ได้วางแผนบริหารการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล และมั่นใจว่าปี 2564 จะเป็นปีที่เติบโตได้ดีสำหรับบริษัท” จึงเป็นสัญญาณว่า หากไม่มีปาฏิหาริย์ใด ๆ แผนลงทุนเสี่ยงใหม่ของบอร์ด BROOK น่าจะผ่านฉลุย

ส่วนจะกำไรมากขึ้นหรือเสี่ยงมากขึ้น แม้ไม่ต้องบอกก็เข้าใจกันได้ดีว่า ตลาดที่มีความเสี่ยงสูงเช่นว่านี้ ยังเปรียบเสมือน “ดินแดนเถื่อนทางภาคตะวันตกแบบคาวบอยกันต่อไป”

ผู้ถือหุ้นและวอร์แรนต์ของ BROOK คงต้องฝากอนาคตไว้กับฝีมือของ มา ชาน ลี ว่ายังจะเป็นเซียนเหยียบเมฆ ไม่ใช่เป็นเซียนขาเป๋

Back to top button