เกิดอะไรกับ ITDลูบคมตลาดทุน

หุ้น ITD หรือ บมจ.อิตาเลียนไทย ราคาปรับลงแรงเลย


ธนะชัย ณ นคร

 

หุ้น ITD หรือ บมจ.อิตาเลียนไทย ราคาปรับลงแรงเลย

ผมดูตัวเลขจากที่เคยขึ้นไปเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 58 ที่ระดับ 9.05 บาท และหากนำมาเทียบกับวานนี้ ปิดตลาด 7.75 บาท ราคาลงมาแล้ว 14-15%

ทว่า หุ้น ITD ถูกขายหนักจริงๆ ก็ในช่วงวันที่ 4-6 พฤศจิกายนครับ

ดูออเดอร์ซื้อ-ขายของวันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน 58 กันก่อน

มีคำสั่งซื้อขายที่ Match กับ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ที่โยนมาแต่ละไม้หนักมาก แต่รวมเบ็ดเสร็จแล้วคือขายออกมากว่า 200 ล้านหุ้น

ใครอยากรู้ว่าเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ก็ลองเอาราคาซัก 8 บาทคูณเข้าไป

ผลลัพธ์ที่ได้ก็ประมาณ 1,600 ล้านบาท

ทว่าก็มีแรงซื้อกลับเข้ามา 52.4 ล้านหุ้น

แม้จะมีแรงซื้อกลับเข้ามา แต่ก็ยังน้อยกว่าแรงขายล่ะ

วันนั้นราคาหุ้น ITD ขึ้นไปสูงสุด 8.40 บาท และลงมาต่ำสุด 7.65 บาท ก่อนจะมาปิดตลาดที่ระดับ 7.70 บาท

มาดูข้อมูลในวันถัดมา หรือวันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน 58

มีคำสั่งขายออกมา 116.7 ล้านหุ้น แต่ก็มีการซื้อกลับเข้ามาอีก 172 ล้านหุ้น

และในวันดังกล่าวเวลา 13.28 น. “เสี่ยยักษ์” หรือ คุณวิชัย วชิรพงศ์ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน ITD โพสต์ผ่าน Facebook ของตนเองว่า ด้วยการแก้ข่าวลือว่าตัวเขานั้นขายหุ้นออกมา

“ขอร้องนะครับ อย่าเล่นตามข่าวลือเลย การลงทุนมีความเสี่ยง” เสี่ยยักษ์โพสต์ใน Facebook

ก่อนหน้านี้ ผมเคยเขียนให้ข้อมูลไว้แล้วว่า กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ใน ITD ที่ถือมากสุด 2 อันดับแรกคือ “กลุ่มกรรณสูต” และ “กลุ่มวิชรพงศ์”

ส่วนตัวผมเคยถามเสี่ยยักษ์ว่า เหตุผลอะไรที่เข้ามาลงทุนในหุ้น ITD

คำตอบของเสี่ยยักษ์คือ เขาคาดหวังกับโครงการเหมืองโปแตชค่อนข้างมาก

โครงการนี้จะช่วยหนุนรายได้ของ ITD

ล่าสุดโครงการนี้ถูกเลื่อนไปปี 2559 เพราะมีการฟ้องร้องกันว่า ในบางพื้นที่มีการทำประชาพิจารณ์ไม่โปร่งใสหลังการประชาพิจารณ์ระดับตำบลแล้วเสร็จ

ส่วนการประชาพิจารณ์ระดับจังหวัดคาดว่าจะมีขึ้นในเดือนมกราคม 59

และทางการน่าจะออกใบอนุญาตได้ในเดือนมีนาคม 59

นี่คือขั้นตอนที่เหลือของเหมืองโปแตช

แต่ก็ยังไม่มีใครรับรู้ได้ว่า ผลที่สุดแล้วโครงการนี้ต่อไปจะเป็นอย่างไร เดินหน้าได้ต่อหรือไม่ หรือจะต้องเลื่อนออกไปเรื่อยๆ แบบนี้

ผมไม่ได้ถามเสี่ยยักษ์ด้วยตนเองอีกครั้งว่า เขาขายหุ้นออกมาหรือไม่

เพราะเข้าใจว่า คำตอบน่าจะเหมือนกับที่เสี่ยยักษ์โพสต์ใน Facebook

คำถามคือ… แล้วใครขายหุ้นจำนวนมหาศาลออกมา?

ความไม่แน่นอนหรือไม่ชัดเจนเกี่ยวกับเหมืองโปแตช ยังถือเป็นปัจจัยเสี่ยงของนักลงทุนที่ถือหุ้น ITD อยู่

ส่วนโครงการทวาย ก็มีการมองกันว่า หลังการเลือกตั้งของเมียนมาร์ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลจากชุดปัจจุบัน เป็นชุดใหม่อย่างแน่นอน

มีข้อชวนสงสัยอีกคือ… ITD จะมีความยากในการสานต่อโครงการทวายมากน้อยเพียงใด

รัฐบาลใหม่เมียนมาร์จะปรับเปลี่ยนนโยบายใดๆ หรือไม่

และต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรต่างๆ เพิ่มอีกหรือเปล่า

แต่เข้าใจว่าประเด็นนี้ ผู้บริหารของ ITD น่าจะมองเห็นตั้งแต่เริ่มแรกการลงทุน และก็อาจมีการ Scenario หรือการวิเคราะห์สถานการณ์ในอนาคตไว้แล้ว

ส่วนโครงการลงทุนระบบขนส่งมวลชน หรือรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ มอเตอร์เวย์ โครงการรถทางคู่ และรางคู่

หลายๆ โครงการยังไม่มี่ความชัดเจน

เรื่องนี้แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรองนายกฯ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ จะเดินหน้าเร่งผลักดัน มีทั้งแก้กฎเกณฑ์การลงทุนแบบ PPP จาก 2 ปี ให้เหลือ 9 เดือน

นี่ยังไม่รวมจะใช้มาตรา 44 เข้ามาจัดการอีกนะ

แต่โครงการก็ยังไม่ขยับเขยื้อนไปไหน ท่ามกลางข่าวลือว่า โครงการพวกนี้ไม่ผ่านกันง่ายๆ หรอก

นั่นเพราะ…(เติมคำในช่องว่างกันเอาเอง)

ผมไม่แน่ใจว่า อุปสรรคต่างๆ เหล่านี้ เป็นปัจจัยที่ทำให้ “รายใหญ่” ขายหุ้นออกมาหรือไม่

ส่วนบทวิเคราะห์ของ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ยังคงมองด้านบวก และแนะนำ “ซื้อ” หุ้น ITD ให้ราคาเป้าหมาย 12 บาท

ทราบมาว่า บล.เมยแบงก์ฯ นั้นปล่อยมาร์จิ้นไปแล้วกว่า 600 ล้านหุ้น กับหุ้น ITD

แต่ราคาหุ้นลงมาแบบนี้

เสียวแทนคนที่เล่นแบบมาร์จิ้นจริงๆ

 

 

 

Back to top button