ศุกร์ 13 ฝันหวานโมนิก้าและทีมงาน

*สถานการณ์ของตลาดไทยตลอดทั้งสัปดาห์ถูกกดดันจากหลายปัจจัยด้วยกัน แต่หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยย่ำแย่ลงไปอีก น่าจะเกิดจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการประมูล 4G ซึ่งแต่ละฝ่ายต่อสู้กันอย่างดุเดือดเลือดพล่าน ไม่มีใครยอมแพ้ใคร จนบรรดาแมงลือเม้าท์กันอย่างสนุกสนานว่า เกมเศรษฐีเที่ยวนี้เดิมพันค่อนข้างสูงเหลือเกินเจ้าค่ะ


 *สถานการณ์ของตลาดไทยตลอดทั้งสัปดาห์ถูกกดดันจากหลายปัจจัยด้วยกัน แต่หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยย่ำแย่ลงไปอีก น่าจะเกิดจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการประมูล 4G ซึ่งแต่ละฝ่ายต่อสู้กันอย่างดุเดือดเลือดพล่าน ไม่มีใครยอมแพ้ใคร จนบรรดาแมงลือเม้าท์กันอย่างสนุกสนานว่า เกมเศรษฐีเที่ยวนี้เดิมพันค่อนข้างสูงเหลือเกินเจ้าค่ะ

*ที่สำคัญ คือ ไม่ว่าใครจะกลายเป็นผู้ชนะอย่างเด็ดขาด หรือ ใครจะพ่ายแพ้ยับเยิน จนต้องกลับไปเลียแผลเป็นการชั่วคราว ก็ไม่ใช่ประเด็นที่ต้องขบคิดจนสมองแตก เพราะสิ่งที่ปรากฏให้เห็นเที่ยวนี้กลายเป็นว่า เหล่านักเล่นรู้สึกถึงความไม่คุ้มค่าที่จะถือหุ้นกลุ่มสื่อสาร และประเด็นดังกล่าวก็ทำให้นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มนี้ออกมาอย่างหนักตลอดทั้งวันเลยทีเดียวนะคะ

*วานนี้ถึงเห็นดัชนีทรุดตัวลงมาทำจุดต่ำสุดที่ 1,379.10 จุด ก่อนจะเด้งกลับขึ้นมาปิดที่ 1,384.29 จุด ลบไป 5.86 จุด ด้วยมูลค่า 4.60 หมื่นล้านบาท อาจเป็นมูฟเม้นท์ที่ไม่ได้ย่ำแย่สุดติ่งกระดิ่งแมวเหมือนกับที่ “โมนิก้า” พยายามเม้าท์มอยไว้เมื่อวันก่อน แต่ทุกอย่างยังไม่มีอะไรดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่สักเท่าไหร่แบบนี้ บอกตามตรงว่า ต้องลุ้นกันจนน้ำลายเหนียวคอแน่นอนค่ะ

*อีกทั้งตามตำราที่ศึกษามาจากลอนดอนมีการเม้าท์ถึง ศุกร์ 13 เป็นตัวเลขอาถรรพ์ “โมนิก้า” ถึงต้องมานั่งประเมินเรื่องที่เกิดขึ้นมีความสัมพันธ์กันขนาดไหน? งานนี้ใครจะคิดอ่านประการใด ก็ใช้วิจารณญาณส่วนตัวตัดสินกันเอาเอง ซึ่งเหมือนกับข่าวลือที่แพร่สะพัดไปทั่วห้องค้าว่า DTAC เป็นรายแรกที่ยอมยกธงขาว มันมีเหตุผลหลายอย่างมาซัพพอร์ต รวมทั้งมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับอนาคตของยักษ์ใหญ่รายนี้ยังคลุมเครือ หุ้นถึงดิ่งลงมาปิดที่ 56 บาท ลบไป 5 บาท หรือลงไป 8.20% ไงล่ะจ๊ะ

*ส่วนอีกรายที่อาการหนักพอกัน “โมนิก้า” ต้องหันหลังกลับไปมองที่ TRUE เพราะตลอดทั้งวันมีแต่แรงเทขายไหลบ่าออกมาไม่ขาดสาย จนหุ้นดิ่งลงมาปิดที่ 9.20 บาท ลบไป 0.80 บาท หรือลงไป 8% ด้วยมูลค่า 3.32 พันล้านบาทแบบนี้ หุ้นมีโอกาสลงต่อค่อนข้างสูง เช่นเดียวกับในรายของ ADVANC ซึ่งตกอยู่ในภาวะทุกขลาภอย่างเต็มตัวนั้น มันขึ้นอยู่กับโพซิชั่นของการลงทุนในหุ้นตัวนี้เป็นอย่างไร? แต่ที่แน่ๆ นักลงทุนสถาบันสาดทิ้งกันทุกคน หุ้นถึงรูดมาที่ 211 บาท ลบไป 15 บาท หรือลงไป 6.60% ด้วยมูลค่า 7.20 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 15% ของมูลค่าการซื้อขายรวมเลยนะ

*สำหรับในรายของ GL มีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับข้างต้นตรงที่ หุ้นตัวนี้โดนสาดทิ้งอย่างหนักเช่นกัน และประเด็นที่ทำให้ทุกคนพร้อมใจกันเลิกเล่นก็มาจากผลประกอบการกำมะลอ เพราะใส้ในที่เห็นเป็นคนละเรื่องกับที่ผู้คนในตลาดหุ้นคาดหวัง ราคาหุ้นถึงรูดลงมาปิดที่ 17.10 บาท ลบไป 1.70 บาท หรือลงไป 9% ด้วยมูลค่า 630 ล้านบาท แถมราคาดีสุดที่ผู้รู้เขาตีให้อยู่แค่ 12 บาท วันนี้จะเป็นอย่างไร เดี๊ยนไม่ต้องอธิบายก็ได้นะคะ

*ตรงกันข้ามกับในรายของ SAWAD  และ MTLS  ยังคงเป็นหุ้นสุดเลิฟที่ “โมนิก้า” ชอบเม้าท์ถึงบ่อยๆ และวันนี้ยังต้องเม้าท์ถึงอีกครั้ง มันมาจากตัวเลขกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่อง แถมขาเม้าท์พูดกันไปถึงขั้นที่ว่า ปีหน้าจะแจ่มจรัสกว่านี้อีกหลายเท่า วานนี้ถึงเห็นรายแรกวิ่งขึ้นมาปิดที่ 45 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 3.50% ด้วยมูลค่า 720 ล้านบาท ส่วนรายหลังวิ่งขึ้นมาปิดที่ 19.50 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 2.60% ด้วยมูลค่า 390 ล้านบาท มันเป็นจังหวะของการเล่นตามน้ำในทันทีนะจะบอกให้

*ไหนๆ เม้าท์ถึงจังหวะไหลตามกระแสขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอให้แฟนคลับเหลือบดู NUSA ไว้เป็นทางเลือกสำหรับคนที่ชอบของร้อน เหตุผลของการเล่นเที่ยวนี้ไม่มีอะไรมาก แค่โปรไฟล์ของบริษัทกำลังเปลี่ยนใหม่ รวมถึงพาร์ตเนอร์ที่เข้ามาแต่ละคนล้วน รอบจัด..อุ๊ย..จัดจ้าน จึงกลายเป็นหุ้นที่สังคมจับตาดูอย่างใกล้ชิด ล่าสุดราคาหุ้นปิดที่ 1.17 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 5.40% มันเป็นอะไรที่พูดยากมากๆ ใครอยากรู้ว่า เจ๊หมวยแสบถึงทรวงขนาดไหน? ต้องลองลิ้มรสกันเอาเอง..อิอิอิ

*ส่วนหุ้นที่หมดความร้อนแรงไปแล้วอย่าง ICHI ถือเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากๆ เพราะเป็นหนึ่งในหุ้นที่สร้างสีสันให้กับวงการตลาดหุ้นมากพอสมควร แต่ในเมื่อปัจจัยพื้นฐานไม่หนุน กิจกรรมทางการตลาดไม่เด่น “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่หุ้นรูดลงมาเป็นปี จากไตรมาส 3 ปี 57 เคยขึ้นไปยืนอยู่ที่ระดับ 29 บาท ล่าสุดหุ้นนอนแอ้งแม้งอยู่ที่ระดับ 15.30 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 3.20% ใช่ก้นเหวหรือไม่..ต้องดูกันเอาเองเจ้าค่ะ

*ผิดกับในรายของ SCI พอเดี๊ยนส่งสายสืบสองสลึงออกไปหาข่าวลับ ในที่สุดก็ได้ความว่า โปรเจ็กต์ยังเดินหน้าตามแผนที่วางไว้ทุกอย่าง งานเสาส่งไฟฟ้าของ EGAT มูลค่า 500 ล้านบาท ก็ยังทำอยู่ แถมมีงานตู้สวิตช์บอดร์ดมูลค่า 100 ล้านบาท ก็ยังติดตั้งไปเรื่อยๆ จึงไม่มีอะไรวิตกเหมือนกับข่าวเม้าท์ที่ออกมาเมื่อวันก่อน “โมนิก้า” ถึงมองการที่หุ้นร่วงลงมาปิดที่ 9.20 บาท ลบไป 0.60 บาท หรือลงไป 6% เป็นจังหวะของการซื้อลงทุนระยะยาว..ไม่เชื่อลองถามจากปาก “พี่โต” กับ “น้องตูน” ดูก็ได้นะจ๊ะ

*ป.ล.สถานการณ์หลายอย่างอาจไม่เข้าที่เข้าทางก็จริง แต่ก็เป็นโอกาสทองสำหรับคนที่มีเงินเย็น..ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ เดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อย..555

Back to top button