อย่าหวังสูง!โมนิก้าและทีมงาน

*ในที่สุดก็ได้รู้กันอย่างแจ่มแจ้งแดงแจ๋ว่า นักเล่นที่อยู่ในตลาดหุ้นเที่ยวนี้มีแต่พวกเสือปืนไว ทุกวันจ้องจะหาจังหวะเข้าทำแบบตีหัวเข้าบ้าน “โมนิก้า” ถึงได้ข้อสรุปอย่างเป็นเอกฉันท์ว่า อย่าไว้ใจอะไรง่ายๆ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น เหมือนเป็นการพายเรือวนอยู่ในอ่าง และจุดเปลี่ยนของการทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งยังเป็นเรื่องของฝันลมๆ แล้งๆ นะจะบอกให้


*ในที่สุดก็ได้รู้กันอย่างแจ่มแจ้งแดงแจ๋ว่า นักเล่นที่อยู่ในตลาดหุ้นเที่ยวนี้มีแต่พวกเสือปืนไว ทุกวันจ้องจะหาจังหวะเข้าทำแบบตีหัวเข้าบ้าน “โมนิก้าถึงได้ข้อสรุปอย่างเป็นเอกฉันท์ว่า อย่าไว้ใจอะไรง่ายๆ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น เหมือนเป็นการพายเรือวนอยู่ในอ่าง และจุดเปลี่ยนของการทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งยังเป็นเรื่องของฝันลมๆ แล้งๆ นะจะบอกให้

*ประกอบกับท่าทีของนักลงทุนกลุ่มต่างๆ ยังพยายามมองอะไรเป็นด้านบวก ทั้งที่ในความเป็นจริงมีแต่เรื่องราวที่ค่อนข้างรันทดใจทั้งนั้น “โมนิก้า” ถือเป็นกระบวนการทางความคิดที่ไม่ถูกกาลเทศะสักเท่าไหร่? และตรงนี้เองทำให้เดี๊ยนมีแนวความคิดทางลบกับนักลงทุนต่างชาติ เพราะตอนนี้กลายเป็นผู้ขายหลักอย่างถาวรไปแล้ว ล่าสุดก็สาดหุ้นออกมาอีก 2 พันล้านบาทนะคะ

*สัปดาห์ที่แล้วถึงเห็นอาการเหวี่ยงตัวไปมาอย่างรุนแรง และเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวน่าจะดำเนินต่อไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งเห็นได้จากแรงเทขายที่ถล่มออกมาอย่างหนักหน่วง จนดัชนีรูดลงมาปิดที่ 1,284.92 จุด ลบไป 25.42 จุด ด้วยมูลค่า 4.10 หมื่นล้าบาท “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นหาจังหวะปล่อยของออกไปก่อน เพราะยังมองไม่เห็นโอกาสที่ดัชนีจะวิ่งทะลุแนวต้าน 1,310 จุดขึ้นไปอย่างแข็งแกร่งนะซี

*ฉะนั้นอย่าได้แปลกใจที่เห็นดัชนีอ่อนตัวลงมายืนอยู่ใต้ 1,300 จุดอีกรอบ เพราะถ้าดูจากแรงเทขายของนักลงทุนต่างชาติที่มีออกมานับตั้งแต่ต้นปี 58 จนถึงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมามีทั้งสิ้น 1.38 แสนล้านบาท “โมนิก้า” ถึงค่อนข้างมั่นใจว่า ดัชนีไม่ขึ้นมาง่ายๆ อย่างแน่นอน เนื่องจากกองทุนยังซื้อหุ้นแบบกระปริบกระปรอย ขณะที่โบรกเกอร์ก็เอาแต่ชอร์ตเซลลูกเดียว บรรยากาศถึงดูไม่ดีเอาเสียเลยเจ้าค่ะ

*ขนาดพี่เบิ้มอย่าง PTT ยังมีอาการเมาหมัดให้เห็น ย่อมสะท้อนถึงนักลงทุนไม่เอาหุ้นใหญ่ จึงมีโอกาสที่จะรูดลงไปหาแนวรับ 200 บาทค่อนข้างสูง และถ้ามองจากราคาล่าสุดที่ 225 บาท ลบไป 17 บาท หรือลงไป 7% ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น มันเหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า หุ้นทั้งเครืออย่าง PTTEP PTTGC TOP และ IRPC ยังไม่พ้นขีดอันตรายนะจะบอกให้

*ส่วนที่โคม่าของแท้แน่นอน “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่ IFEC ซึ่งกลายสภาพเป็นหุ้นที่มีปัญหามากมายหลายเรื่อง แถมแต่ละเรื่องก็จับมือใครดมไม่ได้ แถมยังมีการสาดโคลนกันไปมาอย่างสนุกสนาน มันคือความวุ่นวายที่กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ต้องเคลียร์ปัญหากันเอาเอง แต่ดูเหมือนว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้ข้อยุติ ราคาหุ้นถึงพังพาบไม่เป็นท่า ล่าสุดหุ้นปิดที่ระดับ 6.30 บาท ลบไป 1.60 บาท หรือลงไป 20% ด้วยมูลค่า 930 ล้านบาท เดี๊ยนคงบอกได้แค่ว่า สงครามยังไม่จบ..อย่าเพิ่งนับศพทหาร..อิอิอิ

*เช่นเดียวกับสภาพที่เกิดขึ้นกับ DTAC ล้วนเกิดจากความวิตกกังวลว่า บริษัทจะเจ๊ง? จึงเทขายหุ้นกันอย่างไม่คิดชีวิต ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่กลางปี 57 ต่อเนื่องถึงปี 58 จากหุ้นที่เคยยืนอยู่ในระดับ 130 บาท ล่าสุดลงมายืนในระดับ 38 บาท ลบไป 4.25 บาท หรือลงไป 10% ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขาย 770 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นภาพการลงทุนที่ร้าวรานใจสิ้นดี..งานนี้ถึงเม้าท์กันมันหยดว่า ไอ้หวังตายแน่..ตายแน่ไอ้หวัง!

*ส่วนรายที่รอดตลอดรอดฝั่ง หลังจากมีอาการเป๋มาพักใหญ่ๆ “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่ BMCL  และ BECL ซึ่งกำลังทำการควบรวมกิจการ และกลับมาเทรดอีกครั้งในปีหน้าภายใต้ชื่อ BEM พร้อมกับมีข่าวดีออกมาให้เห็นเป็นระยะ เท่ากับเป็นตัวเร่งให้มีการเก็งกำไรกันอย่างสนุกสนานเมื่อกลับมาเทรดอีกครั้งในปีหน้า จึงขอแสดงความยินดีกับคนที่ได้ใช้สิทธิ์ควบรวมหุ้น ส่วนคนที่ไม่มีสิทธิ์ก็เข้าไปตะลุมบอนวันที่กลับมาซื้อขายก็แล้วกันเจ้าค่ะ

*สำหรับในรายของ TKN ถ้าดูกันตามเสื้อผ้าหน้าผมที่จัดแต่งมาระยะหนึ่ง “โมนิก้า” ขอเรียนตามตรงว่า หมดสวย! หลังพรายกระซิบที่แฝงตัวอยู่ในตึกใหม่ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ร้อยท่อต่อสายตรงมาเล่าให้ฟังว่า ขาใหญ่โบกมือลาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว วันนี้ถึงไม่มีใครช่วยค้ำยันราคาอีกต่อไป และถ้าดูจากการอ่อนตัวลงมาปิดที่ 9 บาท ลบไป 0.35 บาท หรือลงไป 3.75% ด้วยมูลค่า 1.40 พันล้านบาท มันก็เป็นจุดวัดใจคนกล้าเหมือนกันพะยะค่ะ

*เม้าท์ถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอให้แฟนคลับเหลือบไปดู AUCT สักแป๊บหนึ่งได้ไหม! โดยเหตุผลที่อยากให้หันมาดูในเที่ยวนี้มาจากแรงซื้อที่มีเข้ามาค่อนข้างเยอะ จนแพทเทิร์นของหุ้นเริ่มกลับตัวเป็นแบบ v-shape พร้อมกับอนุมานได้ว่า หุ้นจะไต่ระดับขึ้นไปทดสอบยอดเก่าที่บริเวณ 14 บาทอีกรอบ ขณะที่ราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ 11.60 บาท บวกไป 1.20 บาท หรือขึ้นไป 11.50% ด้วยมูลค่า 140 ล้านบาท..น่าสนใจหรือไม่ ลองดูกันเอาเองนะคะ

Back to top button