‘ค่าการตลาด’ รีเทิร์น.!

จากข้อมูลจากสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) พบว่า ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง มีสภาพคล่องมากขึ้นและติดลบลดลง


จากข้อมูลจากสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) พบว่า ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง มีสภาพคล่องมากขึ้นและติดลบลดลง ข้อมูลล่าสุด (21 ก.ย. 68) ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงติดลบสุทธิอยู่ที่ 19,161 ล้านบาท จัดแบ่งเป็นบัญชีน้ำมันเป็นบวก 23,265 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 42,426 ล้านบาท

โดยมีรายรับจากการเรียกเก็บเงินจากกลุ่มน้ำมันอยู่ที่ 179.35 ล้านบาทต่อวัน และ LPG เรียกเก็บ 29.03 ล้านบาทต่อวัน จากสถานการณ์ดังกล่าว ฐานะกองทุนน้ำมันมีโอกาสกลับมาเป็นบวกภายในปลายปีนี้ ขณะที่หนี้กู้ยืมจากสถาบันการเงินลดลง ล่าสุดเหลือ 33,470 ล้านบาท ลดลงจากระดับสูงสุด 105,333 ล้านบาท

จากข้อมูลโครงสร้างราคาน้ำมัน ณ วันที่ 22 ก.ย. 68 พบว่า มีตัวเลขการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ประกอบด้วย 1)น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 (พรีเมียม) อยู่ที่ 9.60 บาทต่อลิตร 2)น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 (E10) อยู่ที่ 3.00 บาทต่อลิตร 3)น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 (E20) อยู่ที่ 1.90 บาทต่อลิตร 4)น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 (E85) อยู่ที่ 3.60 บาทต่อลิตร 5)น้ำมันดีเซลอยู่ที่ 1.40 บาทต่อลิตร

ขณะที่ตัวเลขค่าการตลาด พบว่า 1)ค่าการตลาดน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 (พรีเมียม) อยู่ที่ 3.88 บาทต่อลิตร 2)ค่าการ ตลาดน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 (E10) อยู่ที่ 3.51 บาทต่อลิตร 3)ค่าการตลาดน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 (E20) อยู่ที่ 3.55 บาทต่อลิตร 4)ค่าการตลาดน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 (E85) อยู่ที่ 4.12 บาทต่อลิตร 5)ค่าการตลาดน้ำมันดีเซล อยู่ที่ 1.88 บาทต่อลิตร

แต่ว่า..เพียงชั่วข้ามคืน..ล่าสุด (23 ก.ย. 68) พบว่า ตัวเลข “ค่าการตลาด” ปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ 1)ค่าการตลาดน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 (พรีเมียม) อยู่ที่ 4.14 บาทต่อลิตร 2)ค่าการตลาดน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 (E10) อยู่ที่ 3.78 บาทต่อลิตร 3)ค่าการตลาดน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 (E20) อยู่ที่ 3.80 บาทต่อลิตร 4)ค่าการตลาดน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 (E85) อยู่ที่ 4.20 บาทต่อลิตร 5)ค่าการตลาดน้ำมันดีเซล อยู่ที่ 2.02 บาทต่อลิตร โดยเงินจัดเก็บเข้ากองทุนน้ำมันคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง..

ในมุม “ผู้ใช้น้ำมัน” เมื่อเห็นตัวเลขแล้ว..แอบมีเคืองเป็นแน่.! ด้วยราคาน้ำมันดิบดูไบปรับลงต่อเนื่อง ล่าสุดเฉลี่ยอยู่ที่ 68-69 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ราคาขายปลีกน้ำมันแก๊สโซฮอล์เฉลี่ยกว่า 30 บาทต่อลิตร ส่วนน้ำมันดีเซลเฉลี่ย 31.94 บาท ทำให้ดูเหมือนว่าราคาน้ำมันดิบดูไบปรับลง..แต่ “ราคาขายปลีกน้ำมัน” ยังทรงตัวระดับสูง

..หรือเป็นเพราะ “ค่าการตลาด” มันปรับขึ้นนี่เอง..!!??

แต่ในมุม “หุ้นสถานีบริการน้ำมัน” หรือหุ้นปั๊มน้ำมัน อย่างบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR, บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG, บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP และบริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SUSCO

ตัวเลข “ค่าการตลาด” ที่เพิ่มขึ้น นั่นหมายถึงมาร์จิ้นธุรกิจค้าน้ำมันดีขึ้นอย่างชัดเจน เทียบกับช่วงปีก่อนค่าการตลาดถูกควบคุมเฉลี่ยอยู่ที่ 2 บาทต่อลิตร

บรรดานักวิเคราะห์มีการโฟกัสไปที่ PTG จากตัวเลขกำไรไตรมาส 3/2568 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากงวดเดียวกันปีก่อน จากค่าการตลาดน้ำมันเฉลี่ยเพิ่มเป็น 1.75 บาทต่อลิตร เพิ่มขึ้นกว่า 6% จากงวดเดียวกันปีก่อน แม้ว่าปริมาณยอดขายน้ำมันลดลง 4-6% จากช่วงฤดูฝนก็ตาม

แหละนี่คือปรากฏการณ์ “ค่าการตลาดรีเทิร์น” อย่างชัดเจน.!!

Back to top button