ทยอยขายดีกว่า!

ในเมื่อสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยถูกขับเคลื่อนด้วยหุ้นฟอร์มเทพอย่าง DELTA อีฉันก็ต้องพูดตามตรงว่า นี่เป็นจังหวะของการทยอยขายทำกำไรหุ้นออกไปบางส่วน


ในเมื่อสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยถูกขับเคลื่อนด้วยหุ้นฟอร์มเทพอย่าง DELTA อีฉันก็ต้องพูดตามตรงว่า นี่เป็นจังหวะของการทยอยขายทำกำไรหุ้นออกไปบางส่วน เพราะเมื่อดูจากมูลค่าการซื้อขายในแต่ละวันที่ยังเบาบาง ย่อมเป็นเรื่องอ่อนไหวต่อการทะยานขึ้นในอนาคต และทางที่ดีสุดในภาวะเช่นนี้ก็คือ อย่าฝืนธรรมชาติอีกต่อไป หลังผู้เล่นอย่าง “กองทุน” กับ “ต่างชาติ” รินหุ้นออกมาตลอดนะซี

งานนี้แฟนคลับจะ “เชื่อ” หรือ “ไม่เชื่อ” ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคน เพราะสิ่งที่ “โมนิก้า” เล่าให้ฟังมาจากหลายองค์ประกอบด้วยกัน จึงต้องตั้งคำถามกับนักลงทุนว่า การยืนปิดของดัชนีที่ระดับ 1,313.99 จุด บวกไป 9.07 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.31 หมื่นล้านบาท ยังมีแก๊ปให้ไปต่อไหม? แถมในช่วง 7 วันทำการ ดัชนีปรับตัวขึ้นมาถึง 40 จุด และจะมีวันหยุดยาว 3 วันแบบนี้..น่าถือต่อไหมล่ะคะ

เหมือนกับในรายของหุ้น DELTA เดินหน้าขึ้นแบบ “โนสน โนแคร์” ก็เป็นอะไรที่แปลกประหลาดมาก ๆ แต่นักเล่นก็ยังไม่เลิกเล่นเสียที จนวานนี้หุ้นขึ้นไปทำไฮที่ระดับ 201 บาท ก่อนจะย่อตัวลงมาปิดที่ระดับ 197.50 บาท บวกไป 6 บาท หรือขึ้นไป 3.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.51 พันล้านบาท ก็กลายเป็นประเด็นที่ทำให้นักเล่นส่วนใหญ่ยังงงเหมือนทุกวันที่ผ่านมาว่า เขามีดีอะไร?..อิอิอิ

ส่วนรายที่มีดีจริง ๆ “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้น EGCO ซึ่งอีฉันเคยพูดให้ฟังเมื่อวันก่อนว่า ราคาหุ้นยังมีแก๊ปให้วิ่งอีกเพียบ ซึ่งเป็นผลมาจากความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้น และหุ้นยังเทรดในระดับที่ต่ำเกินไป จึงไม่แปลกใจที่วานนี้หุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 135.50 บาท บวกไป 11 บาท หรือขึ้นไป 8.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.37 พันล้านบาท เพราะเป้าสูงสุดที่นักวิเคราะห์ให้ไว้อยู่ที่ระดับ 155 บาทไงล่ะจ๊ะ

ขนาดหุ้นร้อนที่มีประเด็นทางการเมืองสาดใส่ไม่หยุดอย่าง BCPG ยังทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 9.55 บาท บวกไป 0.55 บาท หรือขึ้นไป 6.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 399 ล้านบาทกับเขาด้วยแบบชิล ๆ “โมนิก้า” ถึงเชื่อว่า การขึ้นเที่ยวนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับผลงานไตรมาส 3 กลับมามีกำไร! เพราะเป็นประเด็นที่มีการพูดกันมานาน และเที่ยวนี้น่าจะปรากฏให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมก็เท่านั้นเองค่ะ

ส่วนรายที่ต้องลุ้นว่า กำไรจะออกมาดีไหม? เพราะสภาพเศรษฐกิจไตรมาส 3 ไม่เป็นใจเอาเสียเลย “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้นปั๊มน้ำมันอย่าง OR หลังมีแรงขายออกมาเป็นระลอก จนราคาหุ้นซึมลงเรื่อย ๆ ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 13.40 บาท ลบไป 0.10 บาท หรือลงไป 0.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 311 ล้านบาท มันทำให้ความฝันที่จะได้เห็นหุ้นวิ่งทะลุแนวต้าน 15 บาทเริ่มเลือนรางลงทุกที และมีสิทธิ์ได้เห็นหุ้นลงไปที่ฐานเก่า 12.50 บาทค่อนข้างสูงนะตัวเอง

สถานการณ์ข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้นน้องใหม่อย่าง TURBO เพื่อชี้ให้เห็นการย่ำฐานไปมาที่บริเวณ 1.85 บาทเป็นเวลาสัปดาห์กว่า ๆ น่าจะเป็นการสื่อให้เห็นการทดสอบแรงซื้อแรงขายอันไหนมีมากกว่ากัน! และถ้าภาพนี้ยังดำเนินต่อไปอีกระยะหนึ่ง อีฉันก็เชื่อว่า นี่อาจเป็นจังหวะของการทยอยเก็บหุ้น เพราะการยืนปิดที่ระดับ 1.86 บาท ลบไป 0.05 บาท หรือลงไป 2.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 104 ล้านบาท เป็นการเทดบน PE 16 เท่าเองจ๊ะ

ส่วนรายที่น่าตกใจเหลือเกิน กลายเป็นหุ้นความสวยความงามอย่าง KLINIQ หลังวานนี้ถูกรินขายอีกครั้ง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็เพิ่งโดนรินขายมาตลอด “โมนิก้า” เลยสังหรณ์ใจว่า การยืนปิดที่ระดับ 25 บาท ลบไป 0.75 บาท หรือลงไป 2.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 26 ล้านบาท อาจยังไม่ใช่โลว์ของการขายทิ้งเที่ยวนี้ เพราะสิ่งที่หลายคนกังวลกันมาตลอดก็คือ ผลงานไตรมาส 3 ไม่น่าโต เพราะสภาพเศรษฐกิจไม่เอื้อนะซี

โมนิก้าและทีมงาน

Back to top button