จัด 19 บจ.เด็ด เก็งงบรายตัวครึ่งปีแรกโตแรงSET ผันผวนถึงอ่อนตัวลง ระวังแรงขายหุ้นแบงก์

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยกดดันต่อเนื่องจากแรงขายหุ้นในกลุ่มธนาคารเนื่องจากความกังวลต่อการเพิ่มขึ้นของ NPLsขณะที่ในรอบสัปดาห์มีแนวโน้มแกว่งในกรอบแคบ การลงทุนเน้นหุ้นที่มีผลประกอบการไตรมาส 1-2/58 เติบโตหรือฟื้นตัวดี


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.14 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.61 บาทต่อเหรียญ ด้านตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่นักลงทุนรอดูรายงานผลประกอบการของภาคเอกชนในสัปดาห์นี้  รวมถึงการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในวันอังคารและวันพุธนี้

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยกดดันต่อเนื่องจากแรงขายหุ้นในกลุ่มธนาคารเนื่องจากความกังวลต่อการเพิ่มขึ้นของ NPLs ขณะที่ในรอบสัปดาห์ยังผันผวน แนวโน้มแกว่งตัวในกรอบแคบ หลังหลุดระดับ 1,550 จุด การลงทุนเน้นหุ้นที่มีผลประกอบการไตรมาส 1-2/58 เติบโตหรือฟื้นตัวดี หุ้นเด่นเลือก VNG-RCL-SAMTEL-SCC-PTT-PTTEP-TOP-PTTGC-ADVANC-CSS-SIRI-ITD-TASCO-TPIPL-WHA-THAI-VTE-SAMART และ TICON

 

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (28 เม.ย.) คงมุมมองการลงทุนเป็น “กลาง” วันที่ 24 แม้ว่า SET INDEX วานนี้จะเปิดหลุดแนว 1,550 จุด แต่หากประเมินจากบรรยากาศการลงทุนรอบเอเชีย / การเคลื่อนย้ายของเงินทุนระหว่างประเภทของสิน ทรัพย์ สะท้อนการขาดปัจจัยบวก หรือ ลบ ใหม่ เพื่อกำหนดทิศทางการลงทุน อีกทั้งนักลงทุนทั่วโลก อาจระมัดระวังต่อการลงทุนในเดือนพ.ค. เพราะตามสถิติบ่อยครั้งจะเกิดลักษณะ “Sell in May and Go Away”

แต่ในมุมมองฝ่ายวิจัย SET INDEX ในช่วง 1-2 สัปดาห์นี้ มีแนวโน้มแกว่งในกรอบแคบ หุ้นที่คาดว่าผลการดำเนินงานจะเติบโตเด่นจากช่วงเดียวกันในปีก่อนและ/หรือจากไตรมาสก่อนจะทรงตัวได้แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับภาพรวม แน่นอนว่ากลุ่มพลังงาน / ปิโตรเคมี / ICT จะช่วยจำกัด Downside risk ของ SET INDEX ในช่วงนี้ ขณะที่กลุ่มธนาคารปรับฐานลงกว่า 5.0% wow ในสัปดาห์ที่แล้ว เราเชื่อว่าจะเริ่มทรงตัวได้ดีขึ้น น่าจะทำให้ภาพการลงทุนในช่วงสั้นจากนี้ไป จะเป็นตลาดของการ “เทรดดิ้ง” ระหว่างกรอบ 1,540-1,580 จุด แม้ว่ามูลค่าการซื้อขายจะเบาบางตลอด 2 สัปดาห์นี้ก็ตาม

ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญในสัปดาห์นี้ ให้น้ำหนักกับมุมมองของเฟดต่อภาพรวมเศรษฐกิจ การจ้างงาน และตลาดบ้านในสหรัฐฯ รวมถึงความเปราะบางของเศรษฐกิจโลก ณ ปัจจุบัน เพราะจะเป็นตัวแปรสำคัญต่อการประเมินช่วงเวลาที่เฟดจะตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แน่นอนว่าการประชุมวันที่ 28-29 เม.ย.นี้จะยังไม่ปรับอัตราดอกเบี้ย และตลาดคาดว่าเฟดจะเริ่มขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. จะมีน้ำหนักมากขึ้นหรือไม่ ก็จะขึ้นอยู่กับความเห็นของเฟดในการประชุมนัดนี้เช่นกัน

กลยุทธ์การลงทุนแนะนำ “นักลงทุนอาจซื้อเก็งกำไรหุ้นเป้าหมายบางส่วนเพิ่มเติม” เพื่อรอขายทำกำไรบริเวณ 1,580 จุด +/-

Top Pick in Q2/15: ITD / TASCO / TPIPL/ WHA

Speculative Buy: THAI/ VTE

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (28 เม.ย.) ว่า แรงขายหุ้นกลุ่มธนาคาร เนื่องจากความกังวลต่อการเพิ่มขึ้นของ NPLs กดดัน SET มีแนวโน้มกดดัน SET ต่อเนื่อง ประเมินแนวรับ 1,538 จุด (กรณีแย่กว่าคาด ไม่ต่ำกว่า 1,520 จุด) ซึ่งเป็นโอกาส “ซื้อ” ด้วยเป้าหมา 1,600-1,620 จุด จาก 1) ความชัดเจนทางการเมืองที่เพิ่มขึ้นหลังร่างรัฐธรรมนูญภายใน ก.ค.นี้ 2) สภาพคล่องในประเทศสูง จากราคาน้ำมันต่ำ ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล และ 3) คาด Fed ยังไม่รีบขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่การประชุม กนง.พรุ่งนี้มีโอกาสลดดอกเบี้ยกระตุ้นเศรษฐกิจต่อ

แนะนำ “เก็งกำไร” SAMTEL ต่อ ด้วยเป้าหมายทางเทคนิค 28.75 บาท ขณะที่ทางพื้นฐานธุรกิจฟื้นตัวชัด คาดเซ็นสัญญาโครงการ APPS และโครงการ Digital Apco RTP Phase I รวมมูลค่า 7.3 พันล้านภายใน 3/15 นอกจากนี้แนะนำ “ซื้อ” SCC กำไร 1Q15 ดีได้รับผลดี Spread Petro ราคาทำ New High พื้นฐาน 600 บาท

 

บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (28 เม.ย.) เชื่อว่าการรายงานงบไตรมาส 1/58 ของ Real sector ยังเป็นปัจจัยหนุนหุ้นรายตัว เฉพาะที่มีผลกำไรโดดเด่น โดยยังชื่นชอบ VNG ([email protected]), RCL ([email protected]) เลือก RCL เป็น Top Pick คาดกำไรไตรมาส 1/58 ดีกว่าไตรมาส 4/57 และในไตรมาส 2/58 จะทำสถิติสูงสุดในรอบ 8 ปี

 

บล.ไอร่า ทิศทางตลาดผันผวนแม้ภาพรวมยังไม่มีประเด็นชี้นำใหม่ๆ แต่คาดภายใต้ประเด็นเดิมยังมีความไม่แน่นอน และอาจสร้างความกังวลให้กับ นักลงทุน และความผันผวนให้กับตลาด ได้ 1) การประชุมเฟด ที่คาดว่าจะมีการส่งสัญญาณมากขึ้นเกี่ยวกับช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย (เช้าวัน พฤหัสบดีตามเวลาไทย)

อย่างไรก็ตามมีการคาดว่าเฟดอาจจะไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยไปจนถึงเดือนกย. หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯช่วงที่ผ่านมาอยู่ในภาวะอ่อนแอ และ 2) สถานการณ์ในกรีซ หลังใกล้ครบครบกำหนดชาระหนี้ต่อ IMF ในวันที่ 1 และ 12 พ.ค. นี้ ซึ่งมีจำนวนสูงถึง 1.95 แสนล้านยูโร และ750 ล้านยูโร ตามลำดับ อย่างไรก็ตามมีความคาดหวังในเชิงบวกต่อสถานการณ์กรีซ หลังปรับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ในคณะเจรจาของกรีซที่จะเข้าเจรจาต่อรองกับเจ้าหนี้จากทางยุโรปและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)

ปัจจัยในประเทศ อยู่ในช่วงประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/58 ที่คาดยังมีแรงเก็งกำไรต่อในกลุ่ม Real Sector จนถึงกลางเดือนพค. ขณะที่ภาพรวม Fund Flow กลับมีความผันผวน ล่าสุดต่างชาติขายสุทธิกว่า 1,600 ล้านบาท เช่นเดียวกับราคาน้ำมันดิบ

อย่างไรก็ตามแนะติดตามหุ้นในกลุ่มพลังงาน เช่น PTT, PTTEP, TOP และ PTTGC เป็นต้น และการประชุม กนง. (29/4/58) ที่คาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75% รวมถึงประเด็นการประมูล 4G ที่ คาด ละะ ADVANC และกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการวางโครงข่ายเสา เช่น CSS เป็นต้น
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี +0.01 อยู่ที่ 1.92% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) +0.83 อยู่ที่ 13.12
หุ้นแนะนำ: SIRI

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (28 เม.ย.) คาดการณ์มุมมองทางเทคนิค ดัชนีตลาดปรับลงเมื่อวานนี้และเคลื่อนไหวใต้เส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น 10 วันที่ 1,556 ระยะสั้นภาพตลาดเข้าสู่แนวโน้มแบบ sideway ขณะที่สัญญาณเทคนิคพบว่า SET ยังสูงกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน และ MACD แสดงค่าเป็นบวกที่ 4.76 ภาพหลักยังเป็นทิศทางขาขึ้นเช่นเดิม โดย SET ยังแกว่งตัวในกรอบ 1,540-1,560 ในระยะใกล้ๆ นี้

แนวโน้มของตลาดจะเคลื่อนไหวที่กรอบ 1,540-1,560

หุ้นที่เลือกวันนี้มีโอกาสปรับขึ้น แนะนำซื้อเก็งกำไร SAMART และ TICON

Back to top button