
“CPNREIT-3BBIF-WHART” นำทีม! กองรีท-อินฟราฯ รับเงินใหม่ TESG ไตรมาส 4
“หยวนต้า” มองกองรีท–อินฟราฯ ได้แรงหนุนจากดอกเบี้ยขาลงและเกณฑ์ใหม่ TESG คาดเม็ดเงินไหลเข้าช่วงไฮซีซั่นกองทุนลดหย่อนภาษี ชู “CPNREIT–3BBIF–WHART” เด่นสุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ปรับเกณฑ์กองทุน Thai ESG (TESG) และ Thai ESG Extra (TESGX) ให้สามารถลงทุนในหน่วยลงทุนของกองรีท (REITs) และอินฟราฟันด์ (Infra Funds) ที่โดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม (E) หรือความยั่งยืน (ESG) ได้มากขึ้น โดยมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นไปเมื่อช่วงเดือนมิถุนายน–สิงหาคม 2568 เพื่อส่งเสริมการลงทุนอย่างยั่งยืนในตลาดทุนไทย
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า เกณฑ์ดังกล่าวคาดว่าจะเริ่มนำมาใช้ได้ภายในเดือนตุลาคมนี้ เพราะอยู่ในขั้นตอนการประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า กองรีทและกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น จากวัฏจักรดอกเบี้ยขาลงของสหรัฐฯ เป็นบวกต่อดัชนีกองรีทไทยและดอกเบี้ยไทย ขณะที่คาดคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีโอกาสปรับลดอย่างน้อยอีก 1 ครั้งในช่วงที่เหลือของปี ซึ่งแนวโน้มดอกเบี้ยขาลงจะช่วยลดต้นทุนทางการเงินของกองรีทและกองทุนโครงสร้างพื้นฐานซึ่งมีหนี้สินระดับสูง
ขณะเดียวกัน เม็ดเงินใหม่จากกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (TESG) และ TESGX จะเข้ามาช่วยหนุน หลังจากการทำ Public Hearing ได้ข้อสรุปเชิงบวก เปิดทางให้กองทุน TESG สามารถลงทุนในกองรีทและกองทุนโครงสร้างพื้นฐานได้ โดยกองที่จะลงทุนต้องผ่านการประเมิน ESG จากผู้ประเมินระดับสากล
โดยคาดว่า เกณฑ์ดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในเดือนตุลาคม เหลือรอการประกาศลงราชกิจจานุเบกษา ซึ่งประเมินจะมีเม็ดเงินจาก TESG ไหลเข้าในไตรมาส 4 ซึ่งเป็นไฮซีซั่นของกองทุนลดหย่อนภาษี ดังนั้น ปีนี้มีโอกาสเห็นเม็ดเงินใหม่สูงกว่าปีก่อน เนื่องจากกองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว (SSF) หมดสิทธิประโยชน์ทางภาษี ทำให้นักลงทุนมีแนวโน้มเลือก TESG มากขึ้น คาดจะมีเงินใหม่เข้าตลาดทุนรวม 8,000 ล้านบาท และหากจัดสรรสู่กองรีทและอินฟราฯ ประมาณ 5–10% จะคิดเป็นเม็ดเงินเพิ่มอีก 400-800 ล้านบาท
สำหรับกองทุนที่แนะนำ ประกอบด้วย ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ซีพีเอ็น รีเทล โกรท หรือ CPNREIT เนื่องจากเป็นกองรีทขนาดใหญ่ที่สุดที่ลงทุนในสิทธิการเช่าศูนย์การค้า โดยศูนย์การค้าเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า จะปรับปรุงแล้วเสร็จในไตรมาส 4/2568 คาดหนุนอัตราการใช้พื้นที่กลับขึ้นเหนือระดับ 95% (จาก 80–85% ในปี 2568) อายุสิทธิการเช่าเฉลี่ยยาว 29.5 ปี และผ่านการประเมิน ESG คาดอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 2568 อยู่ที่ 9.2%
กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต สามบีบี (3BBIF) กองทุนโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์ (Fiber Optic) มีรายได้มั่นคงจากสัญญาเช่าที่มีอายุคงเหลือ 13 ปี หลังจากล้างผลขาดทุนสะสมเสร็จสิ้น กองทุนได้กลับมาจ่ายปันผลตั้งแต่ไตรมาส 2/2568 ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่เปิดทางให้นักลงทุนสถาบันกลับเข้าลงทุนอีกครั้ง ประเมินอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 2568 อยู่ที่ 9.6%
ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ แอล เอช โฮเทล หรือ LH-HOTEL เป็นกองทรัสต์ที่ลงทุนในสินทรัพย์กลุ่มโรงแรม คาดว่าผลประกอบการในไตรมาส 3–4/2568 จะทยอยฟื้นตัวหลังผ่านจุดต่ำสุดจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว สะท้อนผ่านอัตราการเข้าพักที่ปรับตัวดีขึ้น ขณะเดียวกัน คาดอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 2568 อยู่ที่ 10.1%
ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท หรือ WHART เป็นกองทรัสต์คลังสินค้าและโรงงานขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศ มีอายุสัญญาเช่าเฉลี่ยยาวถึง 25 ปี ดำเนินงานตามมาตรฐาน ESG และเข้าร่วมการประเมินกับ GRESB ซึ่งเป็นผู้ประเมินระดับสากล คาดอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 2568 อยู่ที่ 8.2%
ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์สนามบินการบินกรุงเทพ หรือ BAREIT มีโอกาสนำทรัพย์สินสนามบินสมุยเข้าลงทุนในอนาคต ภายใต้แผนขยายสนามบินของบริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA ที่จะเพิ่มขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารจาก 2 ล้านคนต่อปี เป็น 6 ล้านคนต่อปี คาดแล้วเสร็จในปี 2570 ซึ่งจะช่วยสร้างกระแสรายได้ที่มั่นคงและต่อเนื่องให้กับกองทรัสต์ ทั้งนี้ ประเมินอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 2568 อยู่ที่ 8%
และทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ หรือ FTREIT เป็นกองทรัสต์ขนาดใหญ่รองจาก WHART ที่ลงทุนในโรงงานและคลังสินค้า มีอายุสัญญาเช่าเฉลี่ย 19 ปี ล่าสุดได้รับอนุมัติลงทุนในสินทรัพย์ใหม่มูลค่า 1.9 พันล้านบาท พื้นที่ 78,075 ตารางเมตร คาดช่วยหนุนอัตราการเช่าในระยะสั้น อีกทั้งยังผ่านการประเมิน ESG จาก GRESB ทั้งนี้ คาดอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 2568 อยู่ที่ 7.8%