ทรัมป์มัสก์

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบในวันพฤหัสบดี (5 มิ.ย.68) หลังความตึงเครียดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับ อีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลา ปะทุรุนแรง จนบดบังความคืบหน้าด้านความสัมพันธ์ทางกาค้าระหว่างสหรัฐฯ กับ จีน แม้ทั้งสองผู้นำเพิ่งหารือทางโทรศัพท์ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ปิดที่ 42,319.74 จุด ลดลง 108 จุด หรือ -0.25% ดัชนี S&P 500 (.SPX) ปิดที่ 5,939.30 จุด ลดลง 31.51 จุด หรือ -0.53% ดัชนี Nasdaq Composite (.IXIC) ซึ่งเน้นหุ้นเทคโนโลยี ปิดที่ 19,298.45 จุด ลดลง 162.04 จุด หรือ 0.83% แรงกดดันหลักมาจากราคาหุ้น Tesla (TSLA) ที่ร่วงลงกว่า 14% หลังทรัมป์โพสต์ผ่านแพลตฟอร์ม Truth Social ว่า “วิธีประหยัดงบประมาณได้ง่ายที่สุด มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ คือการยกเลิกเงินอุดหนุนและสัญญารัฐบาลกับบริษัทของอีลอน” คำกล่าวของทรัมป์มีขึ้นหลังมัสก์โจมตีกฎหมายงบประมาณใหม่ที่เขาผลักดัน โดยระบุว่าเป็นการใช้จ่ายเกินความจำเป็น ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ตลาดเคยได้แรงหนุนระยะสั้นจากข่าวว่า ทรัมป์ และ สี จิ้นผิง ผู้นำจีน ได้สนทนาทางโทรศัพท์นานราว 1 ชั่วโมงครึ่งในวันพฤหัสบดี โดยทรัมป์ระบุว่า “เป็นการสนทนาที่สร้างสรรค์อย่างยิ่ง และทั้งสองประเทศจะส่งทีมเข้าหารือกันในเร็ว ๆ นี้” อย่างไรก็ดี ข้อมูลเศรษฐกิจในประเทศยังคงกดดันตลาด โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานว่า ตัวเลขขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน ขณะที่ยอดขอรับสวัสดิการต่อเนื่องยังอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 4 ปี สะท้อนภาพตลาดแรงงานที่เริ่มชะลอตัว นักลงทุนทั่วโลกกำลังจับตารายงานการจ้างงานเดือนพฤษภาคม ซึ่งจะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ (7 มิ.ย.68) โดยมองว่าเป็น “สัญญาณจริงจังครั้งแรก” ของตลาดแรงงานภายใต้สภาพแวดล้อมทางการค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว