KrungsriResearch

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (21 ส.ค.68) ณ เวลา 10:01 น. ราคาหุ้น บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC อยู่ที่ระดับ 25.75 บาท บวก 1.35 บาท หรือ 5.53% สูงสุดที่ระดับ 26 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 481.99 ล้านบาท บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือ SCC อยู่ที่ระดับ 224 บาท บวก 8 บาท หรือ 3.70% สูงสุดที่ระดับ 225 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 218 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 524.88 ล้านบาท บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC อยู่ที่ระดับ 1.07 บาท บวก 0.07 บาท หรือ 7% สูงสุดที่ระดับ 1.07 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 1.03 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 44.25 ล้านบาท บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL อยู่ที่ระดับ 22.30 บาท บวก 0.80 บาท หรือ 3.72% สูงสุดที่ระดับ 22.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 21.80 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 163.66 ล้านบาท บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC อยู่ที่ระดับ 36.25 บาท บวก 0.25 บาท หรือ 0.69% สูงสุดที่ระดับ 36.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 36 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 17.70 บาท ทั้งนี้ จากกรณีรัฐบาล นายนเรนทรา โมดี (Narendra Modi) นายกรัฐมนตรีอินเดีย เตรียมปรับโครงสร้างภาษีมูลค่าเพิ่มสินค้าและบริการ (GST) จาก 4 ระดับ เหลือเพียง 2 ระดับคือ 5% และ 18% โดยจะเริ่มมีผลในเดือนตุลาคมนี้ คาดว่าจะช่วยกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศอย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากอินเดียในอัตรา 25% แต่ผลกระทบต่อเศรษฐกิจมีจำกัด เนื่องจากการส่งออกของอินเดียคิดเป็นเพียง 20-23% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) โดยอินเดียมีโครงสร้างภาษี GST ที่ซับซ้อน โดยแบ่งเป็น 4 อัตราหลัก คือ 5%, 12%, 18% และ 28% การเปลี่ยนแปลงที่เสนอครั้งนี้ จะลดจำนวนหมวดภาษีเหลือเพียง 2 หมวด โดยสินค้าส่วนใหญ่ที่เคยถูกเก็บภาษีที่ 12% และ 28% จะถูกปรับลดลงมาอยู่ที่อัตรา 5% และ 18% ตามลำดับ ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า กลุ่มหุ้นไทยที่ได้ประโยชน์โดยตรงจากมาตรการดังกล่าว ได้แก่ IVL มีรายได้จากอินเดียราว 10%, PTTGC รายได้จากอินเดียราว 4% และ GPSC มีสัดส่วนการลงทุนในอินเดียราว 30% ของ Equity MW และสร้างกำไรราว 14% สำหรับมุมมองเชิงกลยุทธ์ มองว่ามาตรการปรับลด GST ของรัฐบาลอินเดีย ถือเป็นปัจจัยเชิงบวกต่อหุ้นไทยที่มีรายได้เชื่อมโยงกับตลาดอินเดีย โดยเฉพาะกลุ่มปิโตรเคมี-พลังงาน และท่องเที่ยว-โรงแรม ซึ่งจะได้อานิสงส์จากการบริโภคและการเดินทางที่เพิ่มขึ้น