MUD บวกแรง 6% วางเป้าปี 65 รายได้ปีนี้โต 50% ลุยขยายสาขาใหม่ หลังโควิดคลี่คลาย

MUD บวกแรง 6% วางเป้าปี 65 รายได้ปีนี้โต 40-50% จากปีก่อน 2.3 พันลบ. ลุยขยายสาขาใหม่เพิ่มอีก 5 สาขา จากปัจจุบันมี 60 สาขา หลังโควิดคลี่คลาย โดย ณ เวลา 11:20 น. ราคาอยู่ที่ระดับ 2.78 บาท บวก 0.16 บาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(27ก.ค.65) ราคาหุ้นบริษัท มัด แอนด์ ฮาวด์ จำกัด (มหาชน) หรือ MUD ณ เวลา 11:20 น.อยู่ที่ระดับ 2.78 บาท บวก 0.16 บาท หรือ 6.11% ราคาหุ้นสูงสุด 3.02 บาท ราคาหุ้นต่ำสุด 2.70 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 78.78 ล้านบาท

อนึ่งก่อนหน้า(1ก.ค.65) นายภาคิน เพ็ญภาคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ MUD เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 40-50% จากปีก่อนที่มีรายได้ 2.3 พันล้านบาท โดยไตรมาส 1/65 บริษัททำรายได้แล้ว 694.08 ล้านบาท ขณะที่คาดว่าอีก 3 ไตรมาสที่เหลือของปีนี้จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนรายได้จากแบรนด์ Dunkin’ Donuts มากสุดราว 50-60% ส่วนที่เหลือจะมาจากแบรนด์ Greyhound Cafe,  Au Bon Pain และแบรนด์อื่นๆ

ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทมีแผนขยายสาขาใหม่ของร้านอาหารในเครืออย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแบรนด์ Au Bon Pain (โอ บอง แปง) ที่จะเปิดเพิ่มอีก 5 สาขาในปีนี้ จากปัจจุบันมี 60 สาขา ส่วน Dunkin’ Donuts จะเน้นขยายสาขา Standalone มากขึ้น จากปัจจุบันที่ส่วนใหญ่อยู่ในห้างสรรพสินค้า เพื่อลดความเสี่ยงจากการปิดทำการห้างสรรพสินค้าที่เคยเกิดขึ้นในช่วงสถานการณ์โควิด-19

ด้านทำเลการขยายสาขาในภาพรวมจะเน้นการรองรับกลุ่มเป้าหมายอย่างโรงพยาบาลชั้นนำ ย่านธุรกิจสำคัญ และอาคารสำนักงาน ขณะที่แผนการตลาดจะเน้นสร้างสรรค์เมนูใหม่ออกมานำเสนอลูกค้าให้มากขึ้นเพื่อให้สอดรับกับเทรนด์ Instragramable Product ที่ผู้บริโภคชื่นชอบการถ่ายรูปสินค้าอาหารและเครื่องดื่มโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย และแชร์ไปยังผู้คนในวงกว้าง

ล่าสุด โอ บอง แปง ได้จัดงานฉลอง 25 ปี Anniversary พร้อมโปรโมชั่นและกลยุทธ์สร้างการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness) โดยสร้างประสบการณ์ร่วมระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค (Brand Experience) ให้มากขึ้น และเตรียมเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิม รวมถึงดูแลควบคุมมาตรฐานการผลิต และการบริการ

นายภาคิน กล่าวอีกว่า ภาพรวมธุรกิจร้านเบเกอรี่และกาแฟในปีนี้คาดว่าจะฟื้นตัวจากหลายปัจจัย ได้แก่ การเติบโตของการบริโภคกาแฟที่ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ผู้ประกอบการรายใหม่ๆ และยักษ์ใหญ่ในตลาดกาแฟเริ่มออกแคมเปญโฆษณาและส่งเสริมการขาย รวมถึงออกผลิตภัณฑ์ใหม่ และสร้างแบรนด์ใหม่มากขึ้น นอกจากนั้นในช่วง 2 ปีนี้ถือว่ามีผู้ประกอบการหน้าใหม่เข้ามามากขึ้น โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดเล็ก ๆ หรือ SME ที่ผลิตเบเกอรี่จากบ้านมาจำหน่ายผ่านช่องทางเดลิเวอรี่ ส่งผลให้ตลาดโดยรวมกลับคึกคัก และผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น

“ธุรกิจเบเกอรี่แม้จะได้รับผลกระทบบ้างในช่วงสถานการณ์โควิด-19 แต่โดยรวมคาดว่ายังเติบโตได้จากยอดขายของเราที่เพิ่มขึ้นหลังจากสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลาย เนื่องจากสินค้าของเราเป็น เบเกอรี่ แซนด์วิช เค้กคุกกี้ ขนมปัง ครัวซองค์ และเครื่องดื่ม กาแฟ เป็นอาหารพร้อมรับประทาน ซึ่งตอบโจทย์ไลฟิสไตล์ของคนยุคใหม่ที่เป็นสังคมเมือง ต้องใช้ชีวิตเร่งรีบนอกบ้าน ทางโอ บอง แปง จึงมีการปรับตัวตามเทรนด์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เริ่มจากการคิดนอกกรอบเพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้ลูกค้า” นายภาคิน กล่าว

Back to top button