ฟื้นตัวแบบเหงาๆโมนิก้าและทีมงาน

*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในช่วงปลายปี มักอยู่ในอาการ “ซึมเซา หงอยเหงา” เพราะฝรั่งหัวทองหยุดซื้อขายอย่างจริงจัง ส่วนขาใหญ่ก็พร้อมใจกันหยุดเทรดหุ้นเป็นการชั่วคราว แล้วหนีไปพักผ่อนกันหมดแล้ว ส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายเหลือแค่ 2.74 หมื่นล้านบาท ขณะที่ดัชนีแกว่งตัวขึ้นๆ ลงๆ ทั้งในแดนบวกและแดนลบ ก่อนจะปิดที่ 1,285.87 จุด บวกไป 2.94 จุดเท่านั้นเองนะคะ


*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในช่วงปลายปี มักอยู่ในอาการ “ซึมเซา หงอยเหงา” เพราะฝรั่งหัวทองหยุดซื้อขายอย่างจริงจัง ส่วนขาใหญ่ก็พร้อมใจกันหยุดเทรดหุ้นเป็นการชั่วคราว แล้วหนีไปพักผ่อนกันหมดแล้ว ส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายเหลือแค่ 2.74 หมื่นล้านบาท ขณะที่ดัชนีแกว่งตัวขึ้นๆ ลงๆ ทั้งในแดนบวกและแดนลบ ก่อนจะปิดที่ 1,285.87 จุด บวกไป 2.94 จุดเท่านั้นเองนะคะ

*เหล่านี้เป็นข้อมูลที่ทำให้นักลงทุนที่ยังหลงเหลือในตลาดหุ้น หันมาเล่นเก็งกำไรสั้นๆ ในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้สูงขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ หลังหุ้นขนาดใหญ่หมดเรี่ยวแรงจะทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันในช่วงนี้ ผสานกับปัจจัยบวกใหม่ๆ ที่จะเข้ามากระตุ้นความเชื่อมั่นในการลงทุน ยังเป็นเพียงการวาดวิมานเมฆในอากาศ ทุกอย่างเลยดูอึมครึมเหมือนเดิมไงล่ะจ๊ะ

*งานนี้ “โมนิก้า” ไม่ต้องการชักใบให้เรือเสีย หรือพยายามข่มขู่ให้นักเล่นหวาดกลัว แต่สิ่งที่เม้าท์ให้ฟังในเที่ยวนี้เป็นเรื่องของข้อเท็จจริง ซึ่งหลายคนรับรู้ว่า การเล่นหุ้นเที่ยวนี้ไม่ง่ายเอาเสียเลย ขนาดเจ้าพ่อมือถือเบอร์หนึ่งอย่าง ADVANC ยังมีอาการเมาหมัดไม่หายเสียที และยังทำท่าอ่อนตัวลงไปอีกเรื่อยๆ ย่อมเป็นสถานการณ์ที่ทำให้คนถือหุ้นทุกข์ใจอย่างหนัก แถมเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนหุ้นอยู่ที่ระดับ 215 บาท ล่าสุดหุ้นลงมายืนอยู่ที่ระดับ 154 บาท ลบไป 1.50 บาท มันอธิบายไม่ถูกเลยนะเนี่ย

                *เหตุการณ์ตรงนี้คล้ายคลึงกับ CPALL เพราะกลายเป็นหุ้นที่มีชนักติดหลังไปเสียแล้ว และกลายเป็นหุ้นที่กองทุนต่างร้องยี้กันเป็นแถบ ยิ่งปล่อยเวลาให้เนิ่นนานไปมากเท่าไหร่ การแก้ปัญหาชีวิตย่อมยากลำบากมากขึ้นเท่านั้น บวกกับกระแสดราม่ายังมีออกมาเป็นระลอก วานนี้ถึงเห็นหุ้นอ่อนตัวลงมาปิดที่ 40 บาท ลบไป 0.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 720 ล้านบาท หากหุ้นยังขึ้นได้ล่ะ..ขอซูฮกในความยอดเยี่ยมพะยะค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ TKN แมงลือเม้าท์กันอย่างครื้นเครง บันเทิงใจสุดๆ ขาใหญ่เริ่มถอยไปทีละคนสองคน แต่ราคาหุ้นก็ยังยืนระยะอยู่ได้ มันไม่ธรรมดาเอาเสียเลย ล่าสุดหุ้นเด้งกลับขึ้นมาปิดที่ 8.60 บาท บวกไป 0.45 บาท หรือขึ้นไป 5.50% ด้วยมูลค่า 545 ล้านบาท มันทำให้พลพรรครักเถ้าแก่น้อยกระชุ่มกระชวยขึ้นมาในทันที พร้อมกับแหงนหน้ามองยอดเดิม 9.50 บาทอีกรอบเจ้าค่ะ

*ส่วนรายของ CSS ในที่สุดก็วิ่งขึ้นมาปิดที่5 บาท บวกไป 0.26 บาท หรือขึ้นไป 5% ได้อีกครั้ง แต่ครั้งนี้ต้องดูกันต่อไปว่า หุ้นจะวิ่งขึ้นไปหายอดเดิม 5.50 บาทได้อีกหรือเปล่า เพราะสเต็ปการเล่นเที่ยวนี้ไม่มีอะไรมาการันตีว่าแรงซื้อจะเข้ามาอย่างต่อเนื่อง วันนี้ถึงต้องติดตามจังหวะการเคาะขวาให้ดีเป็นพิเศษ หากเคาะกันแบบเปาะๆ แปะๆ ต้องรีบถอนตัว หากเคาะกันสะบั้นหั่นแหลก ตามน้ำเลยลูกพี่!

*ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดในยามนี้ก็คือ AJD แรงซื้อที่เข้ามาอย่างหนาแน่นล้วนเกิดจากโมเมนตัมของหุ้นเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาอีกครั้ง บวกกับเป็นหุ้นที่นักเล่นทั่วสารทิศทางเข้าถึงง่าย สถานการณ์ของตัวหุ้นถึงดูดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา ล่าสุดวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1.23 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 8.85% ด้วยมูลค่า 230 ล้านบาท มันเป็นการเซ็ตเกม เพื่อขึ้นไปเล่นแถว 1.50 บาทอีกรอบ..เชื่อ หรือ ไม่ ลองดูกราฟเทคนิคกันเอาเองนะคะ

*ประเด็นตรงนี้เทียบได้กับในรายของ GL ราคาหุ้นทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งอีกรอบ มันเกิดจากแรงเทขายเริ่มสะเด็ดน้ำ แรงซื้อถึงไหลบ่าเข้ามาอีกระลอก จนหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 17.20 บาท บวกไป 1.70 บาท หรือขึ้นไป 11% ด้วยมูลค่า 375 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นหุ้นที่เหมาะสำหรับนักเล่นที่ชอบเล่นหุ้นสวิงสวาย เพราะแพตเทิร์นใหญ่ของหุ้นยังเป็นลักษณะ “ซึมลง เด้งแรง” นะซี

*เม้าถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทีไร “โมนิก้า” พาลนึกไปถึงหุ้น SUPER ขึ้นมาในทันที! เหตุผลของการมองมาที่หุ้นตัวนี้เกิดจากแรงซื้อที่เข้ามาอย่างหนาแน่นวานนี้ จนทำให้หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1.08 บาท บวกไป 0.09 บาท หรือขึ้นไป 9% มันอาจเป็นการกลับทิศอย่างถาวร หรือเป็นแค่การรีบาวด์ได้ทั้งนั้น เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับประเภท “ขาสั้น คอซอง” ดูช็อตไว้นี้ให้ดีๆ เพราะหุ้นมีสิทธิ์ขึ้นไปถึง 1.20 บาท และมีสิทธิ์ลงไปต่ำกว่า 1 บาทนะจะบอกให้

*หุ้นอีกหนึ่งที่สามารถออกได้ 2 หน้าก็คือ KOOL ซึ่งเป็นหุ้นที่ฟอร์มตัวมาระยะหนึ่ง และพยายามยกตัวขึ้นมาเรื่อยๆ น่าเสียดายที่ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ทำไม่เคยสำเร็จสักที! หุ้นถึงจมดิ่งลงไปเรื่อยๆ ล่าสุดหุ้นเด้งขึ้นมาปิดที่ 1.41 บาท บวกไป 0.18 บาท หรือขึ้นไป 14% ด้วยมูลค่า 168 ล้านบาท ซึ่งเป็นการถีบตัวขึ้นจากฐาน 1 บาท และใช้เวลาแค่ 4 วันแบบนี้ แสดงว่า มีคนสนใจหุ้นตัวนี้เป็นจำนวนมาก โอกาสไปต่อมีสูงมากๆ นะคะ

Back to top button