ต้นทุนพุ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (9 ก.ค. 68) ราคาหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวลงต่อนำโดย บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE ณ เวลา 10: 17 น. อยู่ที่ระดับ 20.60 บาท ลบไป 0.40 บาท หรือ 2.76% สูงสุดที่ระดับ 21.00 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 20.40 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 124.20 ล้านบาท บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) หรือ HANA ณ เวลา 10:19 น. อยู่ที่ระดับ 20.50 บาท ลบไป 0.40 บาท หรือ 1.91% สูงสุดที่ระดับ 21.10 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 20.40 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 71.89 ล้านบาท บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA ณ เวลา 10:19 น. อยู่ที่ระดับ 107.50 บาท ลบไป 1.00 บาท หรือ 0.92% สูงสุดที่ระดับ 109.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 107.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 226.34 ล้านบาท บริษัท แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ CCET ณ เวลา 10:17 น. อยู่ที่ระดับ 5.75 บาท ลบไป 0.10 บาท หรือ 1.71% สูงสุดที่ระดับ 5.85 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 5.70 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 78.74 ล้านบาท บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราห์ว่า ทรัมป์ เตรียมขึ้นภาษีนำเข้าทองแดง 50% และมีแผนขึ้นภาษีนำเข้า semiconductor และยา อาจสูงถึง 200% ประเมินเป็น sentiment เชิงลบต่อกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้สหรัฐเตรียมขึ้นภาษีนำเข้าทองแดง 50% อาจเริ่มมีผลปลาย ก.ค.–ต้น ส.ค. (ยังไม่ประกาศเป็นทางการ) โดยประเทศที่ผลิตทองแดงมากสุดคือ ชิลี 24% รองมาคือ เปรู 11%, คองโก 10%, จีน 8% และสหรัฐ 5% ส่วนประเทศที่ใช้ทองแดงมากสุดคือ จีน 27% รองมาคือ อินเดีย 11% และ สหรัฐ 8% โดยประเทศที่นำเข้าทองแดงมากสุดคือ จีน สัดส่วนราว 40% ของปริมาณและมูลค่านำเข้าทองแดงของโลก รองมาคือ เยอรมนี 8% และสหรัฐ 7% โดยสาเหตุที่ทรัมป์ขึ้นภาษีทองแดง เพราะ 1) ต้องการสนับสนุนให้ในประเทศผลิตทองแดงมากขึ้น ทั้งนี้ทองแดงถูกใช้มากในหลายอุตสาหกรรม อาทิ ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ภาคก่อสร้าง รวมถึงการผลิต EV ที่ใช้ทองแดงมากกว่ารถยนต์สันดาปถึง 2-4 เท่า และ 2) คาดเป็นอีกหนึ่งนโยบายที่ใช้โจมตีจีน ผ่านการปรับขึ้นของราคาทองแดง จากประเด็นดังกล่าวส่งผลทำให้ราคาทองแดงขยับขึ้นเล็กน้อยแตะระดับ 10,120 เหรียญ/ตัน (แม้ปรับขึ้นเล็กน้อย แต่สูงสุดในรอบ 1 ปี) และล่าสุดปรับลงมาออยู่ที่ 9,925 เหรียญ/ตัน กลับมาอยู่ในกรอบที่ผู้ประกอบการยอมรับได้ โดยช่วงที่ผ่านมา KCE ได้เจรจาเรื่องราคากับลูกค้า โดยอิงราคาทองแดงที่ราว 10,000 เหรียญ/ตัน +- อยู่แล้ว นอกจากนี้สหรัฐมีแผนขึ้นภาษี semiconductor และยา 200% แต่อาจให้เวลาผู้ประกอบการปรับตัว 1 ปี เพื่อให้ย้ายฐานการผลิตมาในสหรัฐ เป็น sentiment เชิงลบต่อกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เพราะ Semiconductor เป็นวัตถุดิบต้นน้ำของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกประเทศ ถ้ากระทบตรงจะเป็น HANA เพราะเป็นคนประกอบ Semiconductor (IC) และจะกระทบต่อไปยัง DELTA ที่ต้องใช้ Semiconductor เป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้า และจะกระทบทางอ้อมต่อ KCE ที่ผลิต PCB เพราะลูกค้าของ KCE ต้องใช้ IC และ PCB ประกอบกัน จะทำให้ต้นทุนของผู้ประกอบการสูงขึ้น และอาจส่งผ่านต่อมายังสินค้าปลายทาง ซึ่งก็จะกระทบต่อผู้บริโภคท้ายที่สุด ส่วนในมุมรายได้ส่งออกไปสหรัฐจะเป็น DELTA ที่มีสัดส่วนมากสุดราว 30% ของรายได้รวม รองมาคือ HANA 26% และ KCE 21% อย่างไรก็ตามข่าวนี้ยังเป็นแผน เพราะให้เวลาอุตสาหกรรมปรับตัว ยังต้องติดตามความคืบหน้าต่อไป