เฟดเสียงแตก 9:2 คงดอกเบี้ย 4.25–4.50% – “พาวเวลล์” ส่งสัญญาณ ก.ย. ยังไม่ลด

ผลประชุมคณะกรรมการ FOMC เสียงแตกครั้งประวัติศาสตร์ 9 ต่อ 2 มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในกรอบ 4.25–4.50% ขณะที่ “พาวเวลล์” ชี้ชัดว่ายังไม่มีสัญญาณใดบ่งชัดว่า ในเดือนกันยายนจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยหรือไม่


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) มีมติ 9 ต่อ 2 เสียง ในการประชุมเมื่อวันพุธที่ 30 กรกฎาคม 2568 ตามเวลาสหรัฐฯ ซึ่งตรงกับเช้าวันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคม ตามเวลาไทย ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Fed Funds Rate) ที่ระดับ 4.25–4.50% แม้จะเผชิญแรงกดดันจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเรียกร้องให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve หรือ เฟด) เร่งปรับลดอัตราดอกเบี้ยโดยเร็ว

การลงมติครั้งนี้มีผู้ว่าการระดับสูง 2 ราย ได้แก่ นางมิเชล โบว์แมน และนายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ออกเสียงคัดค้านการคงดอกเบี้ย โดยเรียกร้องให้เฟดเริ่ม “ผ่อนคลายนโยบายการเงิน” ชี้ว่า อัตราเงินเฟ้อเริ่มชะลอลง และตลาดแรงงานอาจเข้าสู่ภาวะอ่อนตัวในระยะถัดไป

นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปลายปี ค.ศ. 1993 ที่มีผู้ว่าการเฟดมากกว่า 1 ราย ออกเสียง “ไม่เห็นด้วย” ต่อการตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ย สะท้อนถึงความเห็นที่แตกต่างภายในเฟด เกี่ยวกับจังหวะการดำเนินนโยบายการเงินในช่วงที่เศรษฐกิจมีความเปราะบางสูง

แถลงการณ์หลังการประชุมระบุว่า ตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดชี้ว่า การเติบโตของกิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัวลงในช่วงครึ่งแรกของปี แม้อัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับต่ำ และตลาดแรงงานยังถือว่าแข็งแกร่ง อย่างไรก็ดี อัตราเงินเฟ้อยังคงทรงตัวอยู่ในระดับค่อนข้างสูง

เฟดระบุด้วยว่า ความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งถือเป็นถ้อยแถลงที่ระมัดระวังมากขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ที่ประเมินว่า ความไม่แน่นอนได้ลดลง แม้ยังคงมีอยู่

นายเจอโรม พาวเวลล์ (Jerome Powell) ประธานเฟด ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมว่า “ยังไม่มีการตัดสินใจใด ๆ สำหรับการประชุมเดือนกันยายน” โดยจะพิจารณาจากข้อมูลเศรษฐกิจที่จะประกาศในช่วงถัดไป

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ออกมาเรียกร้องให้เฟดลดดอกเบี้ยอย่างเร่งด่วน โดยอ้างว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ จำเป็นต้องได้แรงหนุนจากนโยบายการเงิน เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนจากภาวะการค้าระหว่างประเทศ และแรงกดดันจากภาคการผลิต

แม้ข้อมูลเบื้องต้นของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ระบุว่า GDP ไตรมาส 2 ปี 2568 ขยายตัว 3.0% สูงกว่าคาด แต่ภาคการบริโภคเริ่มชะลอ และตัวเลขเงินเฟ้อเดือนมิถุนายนยังอยู่ที่ 2.7% สูงกว่ากรอบเป้าหมายของเฟด

ตลาดการเงินตอบรับการคงดอกเบี้ยด้วยความผันผวน โดยพันธบัตรรัฐบาลอายุสั้นถูกขายออก ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น และนักลงทุนหันมาให้น้ำหนักกับโอกาสลดดอกเบี้ยครั้งแรกในช่วงปลายปีนี้ หากเศรษฐกิจเริ่มส่งสัญญาณชัดเจนขึ้น

Back to top button